เมนู

ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุพวกเมืองอาฬวี รู้อยู่ว่าน้ำมีตัวสัตว์ เอารด
หญ้าบ้าง รดดินบ้าง.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐาน
3 . . .
ภูตคามวรรค ที่ 2 จบ

หัวข้อประจำวรรค


[81] ตัวต้นไม้ 1 กล่าวส่อเสียด 1 โพนทะนา 1 ที่แจ้ง 1 วิหาร 1
นอนเบียด 1 ฉุดคร่า 1 บนร้าน 1 โบกฉาบ 1 เอาน้ำมีตัวสัตว์รดทิ้งเสีย 1.

คำถามและตอบโอวาทวรรคที่ 3


[82] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้ไม่ได้รับสมมุติ
สั่งสอนภิกษุณี ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์ ไม่ได้รับสมมติ สั่งสอนภิกษุณี
ถ. ในสิกขาบทนั้นมีบัญญัติ อนุบัญญัติ อนุปันนบัญญัติ หรือ
ต. มีบัญญัติ 1 อนุบัญญัติ 1 อนุปันนบัญญัติไม่มีในสิกขาบทนั้น

บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐาน 2 คือ
บางทีเกิดแต่วาจา มิใช่กาย มิใช่จิต บางทีเกิดแต่วาจากับจิต มิใช่กาย . . .
[83] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้สั่งสอนภิกษุณี
เมื่อพระอาทิตย์อัสดงแล้ว ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภท่านพระจูฬปันถก
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ท่านพระจูฬปันถก สั่งสอนภิกษุณี เมื่อพระอาทิตย์
อัสดงแล้ว.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐาน 2 (เหมือนปทโสธัมมสิกขาบท) . . .
[84] ถามว่า พระผู้พระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้เข้าไปสู่ที่อาศัย
แห่งภิกษุณีแล้ว สั่งสอนพวกภิกษุณี ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ สักกชนบท
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์เข้าไปสู่ที่อาศัยแห่งภิกษุณีแล้วสั่งสอน
พวกภิกษุณี.

มีบัญญัติ 1 อนุบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้
เกิดด้วยสมุฏฐาน 2 (เหมือนในกฐินสิกขาบท). . .
[85] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้กล่าวว่า พวก
ภิกษุกล่าวสอนพวกภิกษุณีเพราะเหตุอามิส ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์กล่าวว่า พวกภิกษุสั่งสอนพวกภิกษุณี
เพราะเหตุอามิส.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐาน 3. . .
[86] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้ให้จีวรแก่ภิกษุณี
ผู้มิใช่ญาติ ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภภิกษุรูปหนึ่ง
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุรูปหนึ่งได้ให้จีวรแก่ภิกษุณีผู้มิใช่ญาติ.

มีบัญญัติ 1 อนุบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้
เกิดด้วยสมุฏฐาน 6 . . .
[87] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้เย็บจีวรเพื่อ
ภิกษุณีผู้มิใช่ญาติ ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภท่านพระอุทายี
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ท่านพระอุทายีเย็บจีวร เพื่อภิกษุณีผู้มิใช่ญาติ.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐาน 6 . . .
[88] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้ชักชวนภิกษุณี
แล้วเดินทางไกลร่วมกัน ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์ ชักชวนพวกภิกษุณี เดินทางไกล
ร่วมกัน.

มีบัญญัติ 1 อนุบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้
เกิดด้วยสมุฏฐาน 4 คือ บางทีเกิดแต่กาย มิใช่วาจา มิใช่จิต บางทีเกิดแต่
กายกับวาจา มิใช่จิต บางทีเกิดแต่กายกับจิต มิใช่วาจา บางทีเกิดแต่กาย
วาจาและจิต . . .
[89] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้ชักชวนภิกษุณี
แล้วโดยสารเรือลำเดียวกัน ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์ ชักชวนพวกภิกษุณีแล้วโดยสารเรือ
ลำเดียวกัน.
มีบัญญัติ 1 อนุบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้
เกิดด้วยสมุฏฐาน 4 . . .
[90] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้รู้อยู่ฉันบิณฑบาต
อันภิกษุณีแนะนำให้ถวาย ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครราชคฤห์
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภพระเทวทัต

ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่พระเทวทัตรู้อยู่ ฉันบิณฑบาตอันภิกษุณีแนะนำให้
ถวาย.
มีบัญญัติ 1 อนุบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้
เกิดด้วยสมุฏฐานอันหนึ่ง คือ เกิดแต่กายกับจิต มิใช่วาจา. . .
[91] ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้เดียว สำเร็จการ
นั่งในที่ลับกับภิกษุณีผู้เดียว ณ ที่ไหน
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี
ถ. ทรงปรารภใคร
ต. ทรงปรารภท่านพระอุทายี
ถ. เพราะเรื่องอะไร
ต. เพราะเรื่องที่ท่านพระอุทายีผู้เดียว สำเร็จการนั่งในที่ลับกับ
ภิกษุณีผู้เดียว.
มีบัญญัติ 1 บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สิกขาบทนี้ เกิดด้วย
สมุฏฐานอันหนึ่ง คือ เกิดแต่กายกับจิต มิใช่วาจา. . .
โอวาทวรรค ที่ 3 จบ

หัวข้อประจำวรรค


[92] ไม่ได้รับสมมติสั่งสอน 1 พระอาทิตย์อัสดง 1 ที่อาศัย 1
เหตุอามิส 1 ให้จีวร 1 เย็บจีวร 1 ชักชวนกันแล้วเดินทาง 1 ชักชวนกัน
แล้วโดยสารเรือ 1 ภัตรที่ภิกษุณีแนะนำให้ถวาย 1 นั่งในที่ลับ 1.