เมนู

ก็วินิจฉัยในจตุกกะที่ 2 พึงทราบดังนี้:-
เพศของภิกษุณีใด ย่อมเปลี่ยนไป, ภิกษุณีนั้น ย่อมละเพศสตรีที่
นับว่าเกิดภายหลัง เพราะเกิดขึ้นภายหลังบ้าง เพราะความเป็นเพศทรามบ้าง
ตั้งอยู่ในเพศบุรุษ ที่นับว่าเกิดก่อน โดยประการดังกล่าวแล้ว. วิญญัตติซึ่ง
แผกจากที่กล่าวแล้ว ย่อมระงับไป. บัญญัติที่เป็นไปอย่างนี้ว่า ภิกษุณี ก็ดี
สตรี ก็ดี ย่อมดับไป. สิกขาบท 130 เหล่าใด อันไม่ทั่วไปด้วยภิกษุทั้งหลาย,
ไม่เป็นอาบัติ เพราะสิกขาบทเหล่านั้นเลย.
สองบทว่า จตฺตาโร สามุกฺกํสา ได้แก่ มหาปเทส 4. จริงอยู่
มหาปเทส 4 นั้น ท่านกล่าวว่า สามุกฺกํสา เพราะเป็นข้อที่พระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงรื้อขึ้น คือยกขึ้นตั้งไว้เอง ในเมื่อยังไม่เกิดเรื่องขึ้น.
บทว่า ปริโภคา ได้แก่ กลืนของที่ควรกลืน.
ส่วนน้ำ เพราะไม่เป็นกาลิก ไม่ได้รับประเคน ก็ควร.
ยาวกาลิกเป็นต้น ที่ไม่ได้รับประเคน ไม่ควรกลืน.
ยามหาวิกัฏ 4 อย่าง เพราะเป็นของเฉพาะกาล ควรกลืนในกาลที่
ตรัสไว้อย่างไร.
สองบทว่า อุปาสโก สีลวา ได้แก่ ผู้ครองศีล 5 หรือศีล 10.

[วินิจฉัยในอาคันตุกาทิจตุกกะ]


วินิจฉัยในอาคันตุกาทิจตุกกะ พึงทราบดังนี้:-
ภิกษุผู้กางร่มสวมรองเท้า คลุมศีรษะเข้าสู่วิหารและเที่ยวไปในวิหาร
นั้น เฉพาะเป็นอาคันตุกะจึงต้อง เป็นเจ้าถิ่นไม่ต้อง.