เมนู

[ว่าด้วยองค์เป็นเหตุลงโทษและเพิ่มโทษ]


สองบทว่า อาคาฬฺหาย เจเตยฺย มีความว่า สงฆ์พึงตั้งใจเพื่อความ
แน่นเข้า คือเพื่อความมั่นคง. อธิบายว่า สงฆ์เมื่อปรารถนา พึงลงอุกเขปนีย-
กรรม แก่ภิกษุผู้ถูกสงฆ์ลงตัชชนียกรรมเป็นต้นแล้วไม่ยังวัตรให้เต็ม.
ในคำว่า อลชฺชี จ โหติ พาโล จ อปกตตฺโต จ นี้ มี
ความว่า ไม่พึงลงโทษด้วยเหตุเพียงเท่านี้ ว่า ผู้นี้เป็นผู้โง่ ไม่รู้จักธรรมและ
อธรรม หรือว่า ผู้นี้มิใช่ปกตัตต์ ไม่รู้จักอาบัติและมิใช่อาบัติ. พึงลงโทษแก่
ภิกษุผู้ต้องอาบัติ ซึ่งมีความเป็นผู้โง่เป็นมูลและมีความเป็นไม่ใช่ผู้ปกตัตต์เป็น
มูล.
ผู้ต้องอาบัติ 2 กอง ชื่อว่าผู้เสียศีลในอธิศีล.
ผู้ต้องอาบัติ 5 กอง ชื่อว่าผู้เสียอาจาระ.
ผู้ประกอบด้วยอันตคาหิกทิฏฐิ ชื่อว่าผู้เสียทิฏฐิ.
พึงลงโทษแก่ภิกษุเหล่านั้น ผู้ไม่เห็น ไม่ทำคืนอาบัติ และผู้ไม่ยอม
สละทิฏฐิเท่านั้น.
อนาจารต่างโดยชนิดมีเล่นการพนันเป็นต้น ด้วยเครื่องเล่นมีสกา 1
เป็นอาทิ ชื่อว่าเล่นทางกาย.
อนาจารต่างโดยชนิดมีทำเปิงมางปากเป็นต้น ชื่อว่าเล่นทางวาจา.
อนาจารทางทวารทั้ง 2 ต่างโดยชนิดมีฟ้อนและขับเป็นต้น ชื่อว่าเล่น
ทางวาจา.
1. ปาสากาทีหิ, ปาสก =Throw = ทอดลูกบาท - เล่นสกา