เมนู

การให้ไม่จัดเป็นบุญ แต่โลกสมมติว่าเป็นบุญมี 5 คือ ให้น้ำเมา 1
ให้มหรสพ 1 ให้สตรี 1 ให้โคผู้ 1 ให้จิตรกรรม 1
สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว บรรเทาได้ยากมี 5 คือ ราคะบังเกิดแล้วบรรเทา
ได้ยาก 1 โทสะบังเกิดแล้วบรรเทาได้ยาก 1 โมหะบังเกิดแล้วบรรเทาได้ยาก 1
ปฏิภาณบังเกิดแล้วบรรเทาได้ยาก 1 จิตที่คิดจะไปบังเกิดแล้วบรรเทาได้ยาก 1
การกวาดมีอานิสงส์ 5 คือ จิตของตนเลื่อมใส 1 จิตของผู้อื่น
เลื่อมใส 1 เทวดาชื่นชม 1 สั่งสมกรรมที่เป็นไปเพื่อให้เกิดความเลื่อมใส 1
เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ 1
การกวาดมีอานิสงส์แม้อื่นอีก 5 คือ จิตของตนเลื่อมใส 1 จิตของ
ผู้อื่นเลื่อมใส 1 เทวดาชื่นชม 1 เป็นอันทำตามคำสั่งสอนของพระศาสดา 1
ชุมชนมีในภายหลังถือเป็นทิฏฐานุคติ 1

ว่าด้วยองคคุณของพระวินัยธร


[980] พระวินัยธรประกอบด้วยองค์ 5 นับว่าเป็นผู้เขลา คือ ไม่
กำหนดที่สุดถ้อยคำของตน 1 ไม่กำหนดที่สุดถ้อยคำของผู้อื่น 1 ไม่กำหนด
ที่สุดถ้อยคำของตน ไม่กำหนดที่สุดถ้อยคำของผู้อื่นแล้วปรับอาบัติ 1 ย่อม
ปรับอาบัติโดยไม่เป็นธรรม 1 ย่อมปรับอาบัติไม่ตามปฏิญญา 1
วินัยธรประกอบด้วยองค์ 5 นับว่าเป็นผู้ฉลาด คือ กำหนดที่สุด
ถ้อยคำของตน 1 กำหนดที่สุดถ้อยคำของผู้อื่น 1 กำหนดที่สุดถ้อยคำของตน
ทั้งกำหนดที่สุดถ้อยคำของผู้อื่นแล้วปรับอาบัติ 1 ย่อมปรับอาบัติตามธรรม 1
ย่อมปรับอาบัติตามปฏิญญา 1

พระวินัยธรประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก 5 นับว่าเป็นคนเขลาคือ ไม่
รู้จักอาบัติ 1 ไม่รู้จักมูลของอาบัติ 1 ไม่รู้จักเหตุเกิดอาบัติ 1 ไม่รู้จักการ
ระงับอาบัติ 1 ไม่รู้จักทางระงับอาบัติ 1
พระวินัยธรประกอบด้วยองค์ 5 นับว่าเป็นผู้ฉลาด คือ รู้จักอาบัติ 1
รู้จักมูลของอาบัติ 1 รู้จักเหตุเกิดอาบัติ 1 รู้จักการระงับอาบัติ 1 รู้จักทาง
ระงับอาบัติ 1
พระวินัยธรประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก 5 นับว่าเป็นผู้เขลา คือ ไม่รู้จัก
อธิกรณ์ 1 ไม่รู้จักมูลของอธิกรณ์ 1 ไม่รู้จักเหตุเกิดของอธิกรณ์ 1 ไม่รู้จัก
ความระงับของอธิกรณ์ 1 ไม่รู้จักข้อปฏิบัติอันให้ถึงความระงับแห่งอธิกรณ์ 1
พระวินัยธรประกอบด้วยองค์ 5 นับว่าเป็นผู้ฉลาด คือ รู้จักอธิกรณ์
รู้จักมูลของอธิกรณ์ 1 รู้จักเหตุเกิดของอธิกรณ์ 1 รู้จักความระงับของ
อธิกรณ์ 1 รู้จักข้อปฏิบัติอันให้ถึงความระงับแห่งอธิกรณ์ 1
พระวินัยธรประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก 5 นับว่าเป็นผู้เขลา คือ ไม่
รู้จักวัตถุ 1 ไม่รู้จักเหตุเป็นเค้ามูล 1 ไม่รู้จักบัญญัติ 1 ไม่รู้จักอนุบัญญัติ 1
ไม่รู้จักทางแห่งถ้อยคำอันเข้าอนุสนธิกันได้ 1
พระวินัยธรประกอบด้วยองค์ 5 นับว่าเป็นผู้ฉลาด คือ รู้จักวัตถุ 1
รู้จักเหตุเป็นเค้ามูล 1 รู้จักบัญญัติ 1 รู้จักอนุบัญญัติ 1 รู้จักทางแห่งถ้อยคำ
อันเข้าอนุสนธิกันได้ 1
พระวินัยธรประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก 5 นับว่าเป็นผู้เขลา คือ ไม่
รู้จักบัญญัติ 1 ไม่รู้จักตั้งบัญญัติ 1 ไม่ฉลาดในเบื้องต้น 1 ไม่ฉลาดในเบื้องปลาย 1
ไม่รู้จักกาล 1

พระวินัยธรประกอบด้วยองค์ 5 นับว่าเป็นรู้ฉลาด คือ รู้จักญัตติ 1
รู้จับตั้งญัตติ 1 ฉลาดในเบื้องต้น 1 ฉลาดในเบื้องปลาย 1 รู้จักกาล 1
พระวินัยธรประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก 5 นับว่าเป็นผู้เขลา คือ ไม่
อาบัติและมิใช่อาบัติ 1 ไม่รู้จักอาบัติเบาและอาบัติหนัก 1 ไม่รู้จักอาบัติมีส่วน
เหลือและอาบัติไม่มีส่วนเหลือ 1 ไม่รู้จักอาบัติชั่วหยาบและอาบัติไม่ชั่วหยาบ 1
ไม่ยึดถือ ไม่ใส่ใจ ไม่ใคร่ครวญถ้อยคำที่สืบต่อจากอาจารย์ให้ดี 1
พระวินัยธรประกอบด้วยองค์ 5 นับว่าเป็นผู้ฉลาด คือ รู้จักอาบัติ
และมิใช่อาบัติ 1 รู้จักอาบัติเบาและอาบัติหนัก 1 รู้จักอาบัติมีส่วนเหลือและ
อาบัติไม่มีส่วนเหลือ 1 รู้จักอาบัติชั่วหยาบและอาบัติไม่ชั่วหยาบ 1 ยึดถือ
ใส่ใจใคร่ครวญถ้อยคำที่สืบต่อจากอาจารย์ด้วยดี 1
พระวินัยธรประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก 5 นับว่าเป็นผู้เขลา คือ ไม่
รู้จักอาบัติและมิใช่อาบัติ 1 ไม่รู้จักอาบัติเบาและอาบัติหนัก 1 ไม่รู้จักอาบัติ
มีส่วนเหลือและอาบัติไม่มีส่วนเหลือ 1 ไม่รู้จักอาบัติชั่วหยาบและอาบัติไม่ชั่ว-
หยาบ 1 จำปาติโมกข์ทั้งสองไม่ได้โดยพิสดาร จำแนกไม่ถูกต้อง สวดไม่
คล่องแคล่ว วินิจฉัยไม่ถูกต้อง โดยสูตร โดยอนุพยัญชนะ 1
พระวินิยธรประกอบด้วยองค์ 5 นับว่าเป็นผู้ฉลาด คือ รู้จักอาบัติ
และมิใช่อาบัติ 1 รู้จักอาบัติเบาและอาบัติหนัก 1 รู้จักอาบัติมีส่วนเหลือและอาบัติ
ไม่มีส่วนเหลือ 1 รู้จักอาบัติชั่วหยาบและอาบัติไม่ชั่วหยาบ 1 จำปาติโมกข์
ทั้งสองได้ดีโดยพิสดาร จำแนกถูกต้อง สวดได้คล่องแคล่ว วินิจฉัยถูกต้องดี
โดยสูตร โดยอนุพยัญชนะ

พระวินัยธรประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก 5 นับว่าเป็นผู้เขลา คือ ไม่
รู้จักอาบัติและมิใช่อาบัติ 1 ไม่รู้จักอาบัติเบาและอาบัติหนัก 1 ไม่รู้จักอาบัติมี
ส่วนเหลือและอาบัติไม่มีส่วนเหลือ 1 ไม่รู้จักอาบัติชั่วหยาบและอาบัติไม่ชั่ว-
หยาบ 1 ไม่ฉลาดในการวินิจฉัยอธิกรณ์ 1
พระวินัยธรประกอบด้วยองค์ 5 นับว่าเป็นผู้ฉลาด คือ รู้จักอาบัติ
และไม่ใช่อาบัติ 1 รู้จักอาบัติเบาและอาบัติหนัก 1 รู้จักอาบัติมีส่วนเหลือและ
อาบัติไม่มีส่วนเหลือ 1 รู้จักอาบัติชั่วหยาบและอาบัติไม่ชั่วหยาบ 1 ฉลาดใน
การวินิจฉัยอธิกรณ์ 1.

ว่าด้วยภิกษุอยู่ป่าเป็นต้น


[981] ภิกษุผู้ถืออยู่ป่ามี 5 คือ เพราะเป็นผู้เขลา เพราะเป็นผู้
งมงายจึงอยู่ป่า 1 เป็นผู้ปรารถนาลามก ถูกความปรารถนาครอบงำ จึงอยู่ป่า 1
เพราะมัวเมา เพราะจิตฟุ้งซ่าน จึงอยู่ป่า 1 เพราะเข้าใจว่า พระพุทธเจ้า
และพระสาวกของพระพุทธเจ้าสรรเสริญ จึงอยู่ป่า 1 เพราะอาศัยความมักน้อย
สันโดษ ขัดเกลา ความเงียบสงัด และเพราะอาศัยความเป็นแห่งการอยู่ป่ามี
ประโยชน์ด้วยความปฏิบัติตามนี้ จึงอยู่ป่า 1
ภิกษุผู้ถือเที่ยวบิณฑบาตมี 5
ภิกษุผู้ถือผ้าบังสุกุลมี 5
ภิกษุผู้ถืออยู่โคนไม้มี 5
ภิกษุผู้ถืออยู่ป่าช้ามี 5
ภิกษุผู้ถืออยู่กลางแจ้งมี 5