มีอยู่ อาบัติ ภิกษุไม่รู้อยู่ จึงต้อง รู้อยู่ จึงออก
มีอยู่ อาบัติ ภิกษุรู้อยู่ จึงต้อง ไม่รู้อยู่ จึงออก
มีอยู่ อาบัติ ภิกษุรู้อยู่ จึงต้อง รู้อยู่ จึงออก
มีอยู่ อาบัติ ภิกษุไม่รู้อยู่ จึงต้อง ไม่รู้อยู่ จึงออก.

ว่าด้วยต้องอาบัติเป็นต้น

[968] ภิกษุต้องอาบัติด้วยอาการ 4 คือ ต้องด้วยกาย 1 ต้องด้วย
วาจา 1 ต้องด้วยกายและวาจา 1 ต้องด้วยกรรมวาจา 1
ภิกษุต้องอาบัติด้วยอาการแม้อื่นอีก 4 คือ ในท่ามกลางสงฆ์ 1 ใน
ท่ามกลางคณะ 1 ในสำนักบุคคล 1 เพราะเพศเปลี่ยนแปลง 1
ภิกษุออกจากอาบัติด้วยอาการ 4 คือ ออกด้วยกาย 1 ออกด้วย
วาจา 1 ออกด้วยกายด้วยวาจา 1 ออกด้วยกรรมวาจา 1
ภิกษุออกจากอาบัติด้วยอาการแม้อื่นอีก 4 คือ ในท่ามกลางสงฆ์ 1
ในท่ามกลางคณะ 1 ในสำนักบุคคล 1 เพราะเพศเปลี่ยนแปลง 1
ภิกษุละเพศอันเป็นเพศเดิม ตั้งอยู่ในเพศสตรี อันเกิด ณ ภายหลัง
พร้อมกับการได้เพศใหม่ วิญญัติย่อมระงับไป บัญญัติย่อมดับไป
ภิกษุณีละเพศสตรีอันเป็นเพศเดิม ตั้งอยู่ในเพศบุรุษอันเกิด ณ ภาย-
หลัง พร้อมกับการได้เพศใหม่ วิญญัติย่อมระงับไป บัญญัติย่อมดับไป
การโจทมี 4 คือ โจทด้วยศีลวิบัติ 1 โจทด้วยอาจารวิบัติ 1 โจท
ด้วยทิฏฐิวิบัติ 1 โจทด้วยอาชีววิบัติ 1

ปริวาสมี 4 คือ ปฏิจฉันนปริวาส 1 อัปปฏิจฉันนปริวาส 1 สุท-
ธันตปริวาส 1 สโมธานปริวาส 1
มานัตมี 4 คือ ปฏิจฉันนมานัต 1 อัปปฏิจฉันนมานัต 1 ปักขมา-
นัต 1 สโมธานมานัต 1
รัตติเฉทของมานัตตจาริกภิกษุมี 4 คือ อยู่ร่วม 1 อยู่ปราศ 1 ไม่
บอก 1 ประพฤติในคณะอันหย่อน 1
พระบัญญัติที่ทรงยกขึ้นแสดงเองมี 4
ของที่รับประเคนไว้ฉันมี 8 คือ ยาวกาลิก 1 ยามกาลิก 1 สัตตาห-
กาลิก 1 ยาวชีวิก 1
ยามหาวิกัฏ มี 4 คือ คูถ 1 มูตร 1 เถ้า 1 ดิน 1
กรรมมี 4 คือ อปโลกนกรรม 1 ญัตติกรรม 1 ญัตติทุติยกรรม 1
ญัตติจตุตถกรรม 1
กรรมแม้อื่นอีก 4 คือ กรรมเป็นวรรคโดยอธรรม 1 กรรม
พร้อมเพรียงโดยอธรรม 1 กรรมเป็นวรรคโดยธรรม 1 กรรมพร้อมเพรียง
โดยธรรม 1
วิบัติมี 4 คือ ศีลวิบัติ 1 อาจารวิบัติ 1 ทิฏฐิวิบัติ 1 อาชีววิบัติ 1
อธิกรณ์มี 4 คือ วิวาทาธิกรณ์ 1 อนุวาทาธิกรณ์ 1 อาปัตตา-
ธิกรณ์ 1 กิจจาธิกรณ์ 1
ผู้ประทุษร้ายบริษัทมี 4 คือ ภิกษุผู้ทุศีล มีธรรมทราม เป็นผู้
ประทุษร้ายบริษัท 1 ภิกษุณีผู้ทุศีล มีธรรมทราม เป็นผู้ประทุษร้ายบริษัท 1
อุบาสกผู้ทุศีล มีธรรมทราม เป็นผู้ประทุษร้ายบริษัท 1 อุบายสิกาผู้ทุศีล
มีธรรมทราม เป็นผู้ประทุษร้ายบริษัท 1

ผู้งามในบริษัทมี 4 คือ ภิกษุผู้มีศีล มีธรรมงาม เป็นผู้งามใน
บริษัท 1 ภิกษุณีผู้มีศีล มีธรรมงาม เป็นผู้งามในบริษัท 1 อุบาสกผู้มีศีล
มีธรรมงาม เป็นผู้งามในบริษัท 1 อุบาสิกาผู้มีศีล มีธรรมงาม เป็นผู้งาม
ในบริษัท 1.

ว่าด้วยพระอาคันตุกะเป็นต้น

[969] มีอยู่ อาบัติ ภิกษุอาคันตุกะต้อง ภิกษุเจ้าถิ่น ไม่ต้อง
มีอยู่ อาบัติ ภิกษุเจ้าถิ่นต้อง ภิกษุอาคันตุกะ ไม่ต้อง
มีอยู่ อาบัติ ภิกษุอาคันตุกะและภิกษุเจ้าถิ่น ต้อง
มีอยู่ อาบัติ ภิกษุอาคันตุกะ และภิกษุเจ้าถิ่น ไม่ต้อง
มีอยู่ อาบัติ ภิกษุผู้เตรียมไป ต้อง ภิกษุเจ้าถิ่น ไม่ต้อง
มีอยู่ อาบัติ ภิกษุเจ้าถิ่น ต้อง ภิกษุผู้เตรียมไป ไม่ต้อง
มีอยู่ อาบัติ ภิกษุผู้เตรียมไป และภิกษุเจ้าถิ่น ต้อง
มีอยู่ อาบัติ ภิกษุผู้เตรียมไป และภิกษุเจ้าถิ่น ไม่ต้อง.

ว่าด้วยสิกขาบทมีวัตถุต่างกันเป็นต้น

[970] ความที่สิกขาบท มีวัตถุต่างกัน มีอยู่ ความที่สิกขาบทมี
อาบัติต่างกัน ไม่มี
ความที่สิกขาบทมีอาบัติต่างกันมีอยู่ ความที่สิกขาบทมีวัตถุต่างกัน ไม่มี
ความที่สิกขาบทมีวัตถุต่างกัน และมีอาบัติต่างกัน มีอยู่
ความที่สิกขาบทมีวัตถุต่างกัน และมีอาบัติต่างกัน ไม่มีเลย