เมนู

บทว่า สนฺทิฏฺฐิปรามาสี มีความว่า ย่อมยึดถือความเห็นของตน
เท่านั้น คือ ข้อใด อันตนได้เห็นแล้ว ย่อมยึดข้อนั้นว่า ข้อนี้เท่านั้น เป็น
จริง.
บทว่า อาธานคาหี ได้แก่ มักยึดไว้อย่างมั่นคง.

[อนุวาทมูลนิทเทส]


อนุวาทมูลนิทเทส เสมอด้วยวิวาทมูลนิทเทสนั่นเอง ก็จริง ถึงกระนั้น
ในวิวาทมูลนิทเทสและอนุวาทมูลนิทเทสนี้ ย่อมมีความแปลกกันดังนี้ว่า โทษ
ทั้งหลาย มีความโกรธและความผูกโกรธกันเป็นต้น ของภิกษุทั้งหลาย ผู้
วิวาทกันอาศัยเภทกรวัตถุ 18 จัดเป็นมูลแห่งวิวาท ก็แลเมื่อวิวาทกันอย่างนั้น
ย่อมถึงวิบัติอย่างใด อย่างหนึ่ง ในวิบัติเป็นต้นแล้ว โจทกันและกันว่า ภิกษุ
ชื่อโน้น ต้องวิบัติชื่อโน้น บ้าง ว่า ท่านเป็นผู้ต้องปาราชิก บ้าง ว่า ท่าน
เป็นผู้ต้องสังฆาทิเสส บ้าง. โทษทั้งหลาย มีความโกรธและความผูกโกรธ
กันเป็นต้น ของภิกษุทั้งหลายผู้โจทกันและกันอย่างนั้น จัดเป็นมูลแห่งอนุวาท.

[สาราณีธัมมนิทเทส]


วินิจฉัยในสาราณียธัมมนิทเทส ดังนี้:-
กายกรรมที่กระทำด้วยจิตประกอบด้วยเมตตา ชื่อเมตตากายกรรม.
สองบทว่า อาวิ เจว รโห จ ได้แก่ ทั้งต่อหน้า ทั้งลับหลัง.
ในกายกรรม 2 อย่าง ด้วยอำนาจแห่งต่อหน้าและลับหลังนั้น การถึงความเป็น
สหาย ในการงานทั้งหลายมีจีวรกรรมเป็นอาทิ ของภิกษุใหม่ทั้งหลาย ชื่อ
เมตตากายกรรมต่อหน้า. ส่วนสามีจิกรรมทั้งปวง แม้ต่างโดยกิจมีล้างเท้าและ
พัดลมเป็นต้นให้พระเถระทั้งหลาย ชื่อเมตตากายกรรม ต่อหน้า.