เมนู

สองบทว่า อารามญฺจ ปวารณา ได้แก่ 2 สิกขาบทที่พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าตรัสว่า ภิกษุณีใด รู้อยู่ ซึ่งอารามอันมีภิกษุ ไม่ไต่ถามก่อน พึงเข้าไป
ดังนี้ 1 ภิกษุณีใด จำพรรษาแล้ว พึงไม่ปวารณาด้วยสถาน* 3 . . .ให้อุภโต
สงฆ์ ดังนี้ 1.
หลายบทว่า อนฺวชฑฺฒมาสํ สหชีวินี เทฺว ได้แก่ สิกขาบทที่
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ธรรม 2 อย่าง (คือ อุโบสถ 1 การเข้าไปหา
เพื่อโอวาท 1) อันภิกษุณีพึงหวังเฉพาะจากสงฆ์ทุกกึ่งเดือน และ 2 สิกขาบท
ที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ภิกษุณีใด พึงยังสหชิวินีให้บวชแล้ว ไม่อนุเคราะห์
ตลอด 2 พรรษา 1 ภิกษุณีใด พึงยังสหชีวินีให้บวชแล้ว ไม่พาไปเอง 1.
สองบทว่า จีวรํ อนุพนฺธนา ได้แก่ 2 สิกขาบทที่พระผู้มีพระภาค-
เจ้าตรัสว่า ภิกษุณีใด พึงพูดกะนางสิกขมานาว่า แน่ะแม่เจ้า ถ้าว่า เธอจักให้
จีวรแก่เราไซร้ ด้วยอย่างนั้น เราจักยังเธอให้อุปสมบท ดังนี้เป็นต้น 1 ภิกษุณี
ใด พึงพูดกะนางสิกขมานาว่า แน่ะแม่เจ้า ถ้าว่า เธอจักติดตามเราไปตลอด
2 พรรษาไซร้ ด้วยอย่างนั้น เราจักยังเธอให้อุปสมบท ดังนี้ 1.
ธรรม 37 เหล่านี้ (ทั้งหมด เป็นสมุฏฐานอันหนึ่ง มีองค์ 3 คือ
กาย วาจา จิต เหมือนสมนุภาสนสมุฏฐาน).

[ว่าด้วยกฐินสมุฏฐาน]


สามบทว่า อุพฺภตํ กฐินํ ตีณิ ได้แก่ 3 สิกขาบทข้างต้นที่พระผู้มี
พระภาคตรัสว่า ครั้นจีวรสำเร็จแล้ว กฐินอันภิกษุรื้อเสียแล้ว.
* คือ ทิฏฺเฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา.