เมนู

[260] ภิกษุผู้ประทุษร้ายสกุล ถูกสวดสมนุภาสน์กว่าจะครบ 3 จบ
ไม่สละอยู่ ต้องอาบัติ 3 คือ จบญัตติ ต้องอาบัติทุกกฏ 1 จบกรรมวาจา
สองครั้ง ต้องอาบัติถุลลัจจัย 1 จบกรรมวาจาครั้งสุด ต้องอาบัติสังฆาทิเสส 1.
สังฆาทิเสส 13 สิกขาบท จบ

อาบัติในนิสสัคคิยกัณฑ์


กฐินวรรคที่ 1


[261] ภิกษุยังอติเรกจีวรให้ล่วง 10 วัน ต้องอาบัติ 1 คือ
นิสสัคคิยปาจิตตีย์.
[262] ภิกษุอยู่ปราศจากไตรจีวรสิ้นราตรีหนึ่ง ต้องอาบัติ 1 คือ
นิสสัคคิยปาจิตตีย์.
[263] ภิกษุรับอกาลจีวรแล้ว ให้ล่วงเดือนหนึ่งต้องอาบัติ 1 คือ
นิสสัคคิยปาจิตตีย์.
[264] ภิกษุใช้ภิกษุณีผู้มิใช่ญาติ ให้ซักจีวรเก่า ต้องอาบัติ 2 คือ
ให้ซัก เป็นทุกกฏในประโยค 1 ให้ซักเสร็จแล้ว เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์ 1.
[265] ภิกษุรับจีวรจากมือภิกษุณีผู้มีใช่ญาติ ต้องอาบัติ 2 คือ
รับเป็นทุกกฏในประโยค 1 รับจีวรแล้ว เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์ 1.
[266] ภิกษุขอจีวรต่อพ่อเจ้าเรือนก็ดี ต่อแม่เจ้าเรือนก็ดี ผู้มิใช่ญาติ
ต้องอาบัติ 2 คือ ขอเป็นทุกกฏในประโยค 1 ขอได้แล้ว เป็นนิสสัคคิยะ
ปาจิตตีย์ 1.

[267] ภิกษุขอจีวรต่อพ่อเจ้าเรือนก็ดี ต่อแม่เจ้าเรือนก็ดี ผู้มีใช่
ญาติยิ่งกว่ากำหนดนั้น ต้องอาบัติ 2 คือ ขอ เป็นทุกกฏในประโยค 1 ขอได้
แล้วเป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์ 1.
[268] ภิกษุอันเขาไม่ได้ปวารณาไว้ก่อน เข้าไปหาพ่อเจ้าเรือนผู้
มิใช่ญาติแล้ว ถึงการกำหนดในจีวร ต้องอาบัติ 2 คือ ถึงการกำหนด เป็น
ทุกกฏในประโยค 1 ถึงการกำหนดแล้ว เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์ 1.
[269] ภิกษุอันเขาไม่ได้ปวารณาไว้ก่อน เข้าไปหาพ่อเจ้าเรือนหลาย
คนผู้มิใช่ญาติ แล้วถึงการกำหนดในจีวร ต้องอาบัติ 2 คือ ถึงการกำหนด
เป็นทุกกฏในประโยค 1 ถึงการกำหนดแล้ว เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์ 1.
[270] ภิกษุยังจีวรให้สำเร็จด้วยทวงเกิน 3 ครั้ง ด้วยยืนเกิน 6
ครั้ง ต้องอาบัติ 2 คือ ให้สำเร็จ เป็นทุกกฏในประโยค 1 ให้สำเร็จแล้ว เป็น
นิสสัคคิยปาจิตตีย์ 1.
กฐินวรรคที่ 1 จบ

โกสิยวรรค ที่ 2


[271] ภิกษุทำสันถัตเจือด้วยไหม ต้องอาบัติ 2 คือ ให้ทำเป็น
ทุกกฏในประโยค 1 ให้ทำเสร็จแล้ว เป็นนิสัคคิยปาจิตตีย์ 1.
[272] ภิกษุทำสันถัตด้วยขนเจียมดำล้วน ต้องอาบัติ 2 คือ ให้ทำ
เป็นทุกกฏในประโยค 1 ให้ทำเสร็จแล้ว เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์ 1.
[273] ภิกษุไม่ถือเอาขนเจียมขาว 1 ส่วน ขนเจียมแดง 1 ส่วน
แล้วให้ทำสันถัตใหม่ ต้องอาบัติ 2 คือ ให้ทำ เป็นทุกกฏในประโยค 1 ให้
ทำเสร็จแล้ว เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์ 1.