เมนู

[155] สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายให้ถอนขนจมูกด้วยกรวดบ้าง ด้วย
ขี้ผึ้งบ้าง จมูกเจ็บ . . .ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตแหนบ.
[156] สมัยนั้น พระฉัพพัคคีย์ใช้กันถอนผมหงอก ชาวบ้าน เพ่งโทษ
ติเตียน โพนทะนาว่า... เหมือนพวกคฤหัสถ์ผู้บริโภคกาม... ภิกษุทั้งหลาย
กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า...ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุ
ไม่พึงให้ถอนผมหงอก รูปใดให้ถอน ต้องอาบัติทุกกฏ.
[157] สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งมีขี้หูจุกช่องหู . .. ภิกษุทั้งหลายกราบ
ทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ..ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาต
ไม้แคะหู.
[158] สมัยนั้น พระฉัพพัคคีย์ใช้ไม้แคะหูต่าง ๆ คือ ทำด้วยทอง
ทำด้วยเงิน ชาวบ้าน เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า . . .เหมือนพวกคฤหัสถ์
ผู้บริโภคกาม . .. ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า...ตรัส
ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงใช้ไม้แคะหูต่าง ๆ รูปใดใช้ ต้องอาบัติ
ทุกกฏ. เราอนุญาตไม้แคะหูที่ทำด้วยกระดูก งา เขา ไม้อ้อ ไม้ไผ่ ไม้จริง
ยางไม้ เมล็ดผลไม้ โลหะ กระดองสังข์.

ทรงห้ามสั่งสมเครื่องโลหะเครื่องสัมฤทธิ์


[159] ก็โดยสมัยนั้นแล พระฉัพพัคคีย์สั่งสมเครื่องโลหะ เครื่อง
ทองสัมฤทธิ์ไว้เป็นอันมาก ชาวบ้านไปเที่ยวชมตามวิหารพบเข้า แล้วเพ่งโทษ
ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉน พระสมณเชื้อสายพระศากยบุตรจึงได้สั่งสมเครื่อง
โลหะ เครื่องทองสัมฤทธิ์ไว้มากมายคล้ายพ่อค้าขายเครื่องทองสัมฤทธิ์ . . . ภิกษุ
ทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า. . .ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุไม่พึงสั่งสมเครื่องโลหะ เครื่องทองสัมฤทธิ์ รูปใดสั่งสม ต้องอาบัติทุกกฏ.