เมนู

เรื่องพระอชิตะ


[650] โดยสมัยนั้นแล พระอชิตะมีพรรษาได้ 10 เป็นผู้สวด
ปาติโมกข์แก่สงฆ์ ครั้งนั้น สงฆ์สมมติท่านพระอชิตะให้เป็นผู้ปูอาสนะเพื่อ
พระเถระทั้งหลาย พระเถระทั้งหลายคิดกันว่า พวกเราจะระงับอธิกรณ์นี้ ณ
ที่ไหนหนอ แล้วคิดต่อไปว่า วาลิการามนี้แล เป็นรมณียสถาน มีเสียงน้อย
ไม่มีเสียงเอ็ดอึง ถ้าไฉนพวกเราจะพึงระงับอธิกรณ์นี้ ณ วาลิการาม ครั้งนั้น
พระเถระทั้งหลายที่ประสงค์จะวินิจฉัยอธิกรณ์นั้น ได้พากันไปวาลิการาม.

สมมติตนเป็นผู้ถามและแก้


[651] ครั้งนั้น ท่านพระเรวตะประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติ-
กรรมวาจา ว่าดังนี้:-

ญัตติกรรมวาจา


ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ถ้าความพร้อมพรั่งของ
สงฆ์ถึงที่แล้ว ข้าพเจ้าพึงถามพระวินัยกะท่านพระสัพพกามี.

ท่านพระสัพพกามีประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติกรรมวาจา ว่าดังนี้:-

ญัตติกรรมวาจา


ท่านทั้งหลาย ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ถ้าความพร้อมพรั่ง
ของสงฆ์ถึงที่แล้ว ข้าพเจ้าอันพระเรวตะถามพระวินัยแล้วจะพึงแก้.

ถามและแก้วัตถุ 10 ประการ


[652] ครั้งนั้น ท่านพระเรวตะถามท่านพระสัพพกามีว่า สิงคิ-
โลณกัปปะควรหรือ ขอรับ.

พระสัพพกามีย้อนถามว่า สิงคิโลณกัปปะนั้น คืออะไร ขอรับ.
ร. คือ การเก็บเกลือไว้ในเขนงโดยตั้งใจว่า จักปรุงในอาหารที่จืดฉัน
ควรหรือ ขอรับ.
ส. ไม่ควร ขอรับ.
ร. ทรงห้ามไว้ที่ไหน.
ส. ในเมืองสาวัตถี ปรากฏในคัมภีร์สุตตวิภังค์.
ร. ต้องอาบัติอะไร.
ส. ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ในเพราะอาหารที่ทำการสั่งสม.
ร. ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงพึงข้าพเจ้า วัตถุที่ 1 นี้ สงฆ์วินิจฉัยแล้ว
แม้เพราะเหตุนี้ วัตถุนี้ จึงผิดธรรม ผิดวินัย หลีกเลี่ยงสัตถุศาสน์.
ข้อที่ 1 นี้ ข้าพเจ้าขอลงคะแนน.
[653] ร. ทวังคุลกัปปะ ควรหรือไม่ ขอรับ.
ส. ทวังคุลกัปปะนั้น คืออะไร ขอรับ.
ร. คือ การฉันโภชนะในวิกาล เมื่อตะวันบ่ายล่วงแล้วสององคุลี ควร
หรือไม่ ขอรับ.
ส. ไม่ควร ขอรับ.
ร. ทรงห้ามไว้ที่ไหน.
ส. ในเมืองราชคฤห์ ปรากฏในคัมภีร์สุตตวิภังค์.
ร. ต้องอาบัติอะไร.
ส. ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ในเพราะฉันโภชนะในเวลาวิกาล.

ร. ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงพึงข้าพเจ้า วัตถุที่ 2 นี้สงฆ์วินิจฉัยแล้ว
แม้เพราะเหตุนี้ วัตถุนี้จึงผิดธรรม ผิดวินัย หลีกเลี่ยงสัตถุศาสน์ ข้อที่ 2 นี้
ข้าพเจ้าขอลงคะแนน.
[654] ร. คามันตรกัปปะ ควรหรือไม่ ขอรับ .
ส. คามันตรกัปปะนั้น คืออะไร ขอรับ.
ร. คือ ภิกษุฉันเสร็จห้ามภัตรแล้วคิดว่า จักเข้าละแวกบ้าน ในบัดนี้
ฉันโภชนะเป็นอนติริตตะ ควรหรือไม่ ขอรับ.
ส. ไม่ควร ขอรับ.
ร. ทรงห้ามไว้ที่ไหน.
ส. ในเมืองสาวัตถี ปรากฏในคัมภีร์สุตตวิภังค์
ร. ต้องอาบัติอะไร.
ส. ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ในเพราะฉันโภชนะเป็นอนติริตตะ
ร. ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงพึงข้าพเจ้า วัตถุที่ 3 นี้ สงฆ์วินิจฉัยแล้ว
แม้เพราะเหตุนี้ วัตถุนี้จึงผิดธรรม ผิดวินัย หลีกเลี่ยงสัตถุศาสน์ ข้อที่ 3 นี้
ข้าพเจ้าขอลงคะแนน.
[655] ร. อาวาสกัปปะ ควรหรือไม่ ขอรับ.
ส. อาวาสกัปปะนั้น คืออะไร ขอรับ.
ร. คืออาวาสหลายแห่ง มีสีมาเดียวกัน. ทำอุโบสถต่างกัน ควรหรือ
ไม่ ขอรับ.
ส. ไม่ควร ขอรับ.
ร. ทรงห้ามไว้ที่ไหน.

ส. ในเมืองราชคฤห์ ปรากฏในคัมภีร์อุโบสถสังยุต.
ร. ต้องอาบัติอะไร.
ส. ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะละเมิดวินัย.
ร. ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงพึงข้าพเจ้า วัตถุที่ 4 นี้ สงฆ์วินิจฉัยแล้ว
แม้เพราะเหตุนี้ วัตถุนี้จึงผิดธรรม ผิดวินัย หลีกเลี่ยงสัตถุศาสน์ ข้อที่ 4 นี้
ข้าพเจ้าขอลงคะแนน.
[ 656] ร. อนุมติกัปปะ ควรหรือไม่ ขอรับ.
ส. อนุมติกัปปะนั้น คืออะไร.
ร. คือ สงฆ์เป็นวรรคทำกรรม ด้วยตั้งใจว่า จักให้ภิกษุที่มาแล้ว
อนุมัติ ควรหรือไม่ ขอรับ.
ส. ไม่ควร ขอรับ.
ร. ทรงห้ามไว้ที่ไหน .
ส. ในเมืองจัมเปยยกะ ปรากฏในเรื่องวินัย.
ร. ต้องอาบัติอะไร.
ส. ต้องอาบัติทุกกฏ ในเพราะละเมิดวินัย.
ร. ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า วัตถุที่ 5 นี้ สงฆ์วินิจฉัยแล้ว
แม้เพราะเหตุนี้ วัตถุนี้จึงผิดธรรม ผิดวินัย หลีกเลี่ยงสัตถุศาสน์ ข้อที่ 5 นี้
ข้าพเจ้าขอลงคะแนน.
[657] ร. อาจิณณกัปปะ ควรหรือไม่ ขอรับ.
ส. อาจิณกัปปะนั้น คืออะไร ขอรับ.
ร. คือ การประพฤติวัตรด้วยเข้าใจว่า นี้พระอุปัชฌายะของเราเคย
ประพฤติมา นี้พระอาจารย์ของเราเคยพระพฤติมา ควรหรือไม่ ขอรับ.

ส. อาจิณณกัปปะบางอย่างควร บางอย่างไม่ควร ขอรับ.
ร. ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงพึงข้าพเจ้า วัตถุที่ 6 นี้ สงฆ์วินิจฉัยแล้ว
แม้เพราะเหตุนี้ วัตถุนี้จึงผิดธรรม ผิดวินัย หลีกเลี่ยงสัตถุศาสน์ ข้อที่ 6 นี้
ข้าพเจ้าขอลงคะแนน.
[658] ร. อมถิตกัปปะ ควรหรือไม่ ขอรับ.
ส. อมถิตกัปปะนั้น คืออะไร ขอรับ.
ร. คือ นมสดละความเป็นนมสดแล้ว ยังไม่ถึงความเป็นนมส้ม ภิกษุ
ฉันเสร็จ ห้ามภัตแล้ว จะดื่มนมนั้นอันเป็นอนติริตตะ ควรหรือไม่ ขอรับ.
ส. ไม่ควร ขอรับ.
ร. ทรงห้ามไว้ที่ไหน.
ส. ในเมืองสาวัตถี ปรากฏในคัมภีร์สุตตวิภังค์
ร. ต้องอาบัติอะไร.
ส. ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ในเพราะฉันโภชนะอันเป็นอนติริตตะ.
ร. ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงพึงข้าพเจ้า วัตถุที่ 7 นี้ สงฆ์วินิจฉัยแล้ว
แม้เพราะเหตุนี้ วัตถุนี้จึงผิดธรรม ผิดวินัย หลีกเลี่ยงสัตถุศาสน์ ข้อที่ 7 นี้
สงฆ์วินิจฉัยแล้ว แม้เพราะเหตุนี้ วัตถุนี้จึงผิดธรรม ผิดวินัย หลีกเลี่ยง
สัตถุสาสน์ข้อที่ 7 นี้ ข้าพเจ้าขอลงคะแนน.
[659] ร. การดื่มชโลคิ ควรหรือไม่ ขอรับ.
ส. ชโลคินั้น คืออะไร ขอรับ.
ร. คือ การดื่มสุราอย่างอ่อนที่ยังไม่ถึงความเป็นน้ำเมา ควรหรือไม่
ขอรับ.

ส. ไม่ควร ขอรับ
ร. ทรงห้ามไว้ที่ไหน.
ส. ในเมืองโกสัมพี ปรากฏในคัมภีร์สุตตวิภังค์.
ร. ต้องอาบัติอะไร.
ส. ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ในเพราะดื่มสุราและเมรัย
ร. ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงพึงข้าพเจ้า วัตถุที่ 8 นี้ สงฆ์วินิจฉัยแล้ว
แม้เพราะเหตุนี้ วัตถุนี้จึงผิดธรรม ผิดวินัย หลีกเลี่ยงสัตถุศาสน์ ข้อที่ 8 นี้
ข้าพเจ้าขอลงคะแนน.
[660] ร. ผ้าปูนั่งไม่มีชาย ควรหรือไม่ ขอรับ.
ส. ไม่ควร ขอรับ .
ร. ทรงห้ามไว้ที่ไหน.
ส. ในเมืองสาวัตถี ปรากฏในคัมภีร์สุตตวิภังค์.
ร. ต้องอาบัติอะไร.
ส. ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ที่ต้องตัดเสีย.
ร. ท่านเจ้าข้า ของสงฆ์จงพึงข้าพเจ้า วัตถุที่ 9 นี้ สงฆ์วินิจฉัยแล้ว
แม้เพราะเหตุนี้ วัตถุนี้จึงผิดธรรม ผิดวินัย หลีกเลี่ยงสัตถุศาสน์ ข้อที่ 9 นี้
ข้าพเจ้าขอลงคะแนน.
[660] ร. ทองและเงิน ควร หรือไม่ ขอรับ.
ส. ไม่ควร ขอรับ.
ร. ทรงห้ามไว้ที่ไหน.
ส. ในเมืองราชคฤห์ ปรากฏในคัมภีร์สุตตวิภังค์.
ร. ต้องอาบัติอะไร.

ส. ต้องอาบัติปาจิตตีย์ เพราะรับทองและเงิน.
ร. ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า วัตถุที่ 10 นี้ สงฆ์วินิจฉัย
แล้วแม้เพราะเหตุนี้ วัตถุนี้จึงผิดธรรม ผิดวินัย หลีกเลี่ยงสัตถุศาสน์ ข้อที่
10 นี้ ข้าพเจ้าขอลงคะแนน.
[662] ร. ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงพึงข้าพเจ้า วัตถุ 10 ประการนี้
สงฆ์วินิจฉัยแล้ว แม้เพราะเหตุนี้ วัตถุ 10 ประการนี้ จึงผิดธรรม ผิดวินัย
หลีกเลี่ยงสัตถุศาสน์.
[663] พระสัพพกามีกล่าวว่า ท่านทั้งหลาย อธิกรณ์นั่นสงฆ์ชำระ
แล้ว สงบระงับเรียบร้อยดีแล้ว อนึ่ง ท่านพึงถามวัตถุ 10 ประการนี้กะผม
แม้ในท่ามกลางสงฆ์ เพื่อประกาศให้ภิกษุเหล่านั้นรู้ทั่วกัน.
ครั้งนั้น ท่านพระเรวตะได้ถามวัตถุ 10 ประการนี้กะท่านพระสัพพ-
กามีแม้ในท่ามกลางสงฆ์ ท่านพระสัพพกามี อันท่านพระเรวตะถามแล้ว ๆ
ได้วิสัชนาแล้ว.
ก็ในสังคายนาพระวินัยครั้งนี้ มีภิกษุ 700 รูป ไม่หย่อน ไม่เกิน
เพราะฉะนั้น การสังคายนาพระวินัยครั้งนี้ บัณฑิตจึงเรียกว่า แจง 700
ดังนี้แล
สัตตสติกขันธกะ ที่ 12 จบ
ในขันธกะนี้มี 25 เรื่อง

หัวข้อประจำขันธกะ


[664] เรื่องวัตถุ 10 เรื่องเทน้ำให้เต็มถาดสัมฤทธิ์ เรื่องลงปฏิสาร-
ณียกรรม เรื่องเข้าไปในเมืองเวสาลีกับทูต เรื่องเศร้าหมองของพระจันทร์
พระอาทิตย์ 4 อย่าง เรื่องความเศร้าหมองของสมณะอีก 4 อย่าง เรื่องรับทอง
และเงิน เรื่องพระยสไปปรากฏตัวที่เมืองโกสัมพี เรื่องภิกษุชาวเมืองปาฐา
เรื่องแสวงหาพวก เรื่องเมืองโสเรยยะ เรื่องเมืองสังกัสสะ เรื่องเมืองกัณณ-
กุชชะ เรื่องไปเมืองอุทุมพร เรื่องไปเมืองสหชาติ เรื่องอาราธนาสวดสรกัญญะ
เรื่องพระวัชชีบุตรชาวเมืองเวสาลีได้ทราบข่าว เรื่องพวกเราจะได้ใครหนอเป็น
ฝักฝ่าย เรื่องจัดแจงสมณบริขารมีบาตรเป็นต้น เรื่องโดยสารเรือไปไกล เรื่อง
ท่านพระอุตตระรับคำ เรื่องถูกตำหนิร้ายแรง เรื่องสงฆ์ไปเมืองเวสาลี เรื่อง
เมตตา เรื่องสงฆ์ระงับอธิกรณ์ด้วยอุพพาหิกวิธี.
หัวข้อประจำขันธกะ จบ
จุลวรรค ภาค 2 จบ
พระวินัยปิฏก เล่ม 7 จบ