เมนู

ให้ภิกษุทั้งหลายให้อุปสมบทนางภิกษุณี. นางสากิยานีแม้ทั้งปวงเหล่านั้น ได้
เป็นผู้ชื่อว่า อุปสมบทแล้วพร้อมกัน ด้วยประการฉะนี้.
พระนางโคตมี บรรลุพระอรหัตด้วยพระโอวาทนี้ว่า เย โข ตฺวํ
โคตมิ
(เป็นอาทิ).
ข้อว่า กมฺมํ น กริยติ มีความว ่า ภิกษุทั้งหลายไม่ทำกรรมทั้ง
7 อย่าง มีตัชชนียกรรมเป็นอาทิ.
บทว่า ขมาเปนฺติ มีความว่า ภิกษุเหล่านี้ ย่อมขอโทษว่า เราทั้งหลาย
จักไม่ทำกรรมเห็นปานนี้อีก.
วินิจฉัยในคำว่า อนุชานามิ ภิกฺขเว ภิกฺขูหิ ภิกฺขุนํ กมฺมํ
อโรเปตฺวา ภิกฺขุนียํ นิยิยาเทตุํ
นี้ พึงทราบดังนี้ :-
อันภิกษุทั้งหลายพึงยกขึ้นอย่างนี้ว่า บรรดากรรมมีตัชชนียกรรม
เป็นต้น กรรมชื่อนี้ พึงทำแก่ภิกษุณีนั่น แล้วพึงมอบหมายว่า บัดนี้ ท่าน
ทั้งหลายนั่นแล จงทำกรรมนั้น.
ก็ถ้าว่า ภิกษุณีทั้งหลายทำกรรมอื่น ในเมื่อกรรมอื่น อันภิกษุยก
ขึ้นแล้ว เธอทั้งหลาย ย่อมถึงความเป็นผู้อันสงฆ์ควรปรับโทษ ตามนัยที่
กล่าวแล้วในบาลีนี้ว่า ทำนิยสกรรม แก่บุคคลผู้ควรแก่ตัชชนียกรรม ทีเดียว.

[ว่าด้วยอวันทิยกรณ์เป็นต้น]


วินิจฉัยในคำว่า กทฺทโมทเกน นี้ พึงทราบดังนี้:-
เป็นทุกกฏแก่ภิกษุผู้รดด้วยน้ำโคลนอย่างเดียวเท่านั้น หามิได้ เมื่อรด
แม้ด้วยน้ำใส น้ำยอมและตมเป็นต้นอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็เป็นทุกกฏเหมือนกัน.
ข้อว่า อวนฺทิโย โส ภิกฺขเว ภิกฺขุ ภิกฺขุนิสงฺเฆน กาตพฺโพ
มีความว่า ภิกษุณีสงฆ์พึงประชุมกัน ในสำนักภิกษุณี สวดประกาศ 3 ครั้ง