เมนู

ญัตติกรรมวาจาสมมติตน


แม่เจ้า เจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังดิฉัน นางชื่อนี้ เป็นอุปสัมปทา-
เปกขะของแม่เจ้าชื่อนี้ ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว ดิฉัน
พึงสอนซ้อมนางชื่อนี้.

อย่างนี้ชื่อว่าตนเองสมมติตน.

วิธีสมมติผู้อื่น


[577] ก็ผู้อื่นพึงสมมติผู้อื่น อย่างไร.
ภิกษุณีผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติกรรมวาจา
ว่าดังนี้:-

ญัตติกรรมวาจาสมมติผู้อื่น


แม่เจ้า เจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังดิฉัน นางชื่อนี้เป็นอุปสัมปทา-
เปกขะของแม่เจ้าชื่อนี้ ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว ภิกษุณี
ชื่อนี้ พึงสอนซ้อมนางชื่อนี้.

อย่างนี้ชื่อว่าผู้อื่นสมมติผู้อื่น.

คำสอนซ้อม


[578] ภิกษุณีผู้ได้รับสมมติแล้วนั้น พึงเข้าไปหานางอุปสัมปทา -
เปกขะแล้วกล่าวอย่างนี้ว่า
นางชื่อนี้ เธอจงฟังนะ นี้เป็นกาลสัตย์ กาลจริง ของเธอ เมื่อถูกถาม
ในท่ามกลางสงฆ์ ถึงสิ่งอันเกิดแล้ว มีอยู่ พึงบอกว่ามี ไม่มี พึงบอกว่าไม่มี
เธออย่ากระดาก เธออย่าเก้อเขิน ภิกษุณีทั้งหลายจักถามเธอ อย่างนี้ :-

เธอมิใช่ผู้ไม่มีนิมิต หรือ
มิใช่ผู้มีสักแต่ว่านิมิต หรือ
มิใช่ผู้ไม่มีโลหิต หรือ
มิใช่ผู้มีโลหิตเสมอ หรือ
มิใช่ผู้มีผ้าซับในเสมอ หรือ
มิใช่ผู้มีน้ำมูตรกระปริบกระปรอย หรือ
มิใช่ผู้มีเดือยหรือ.
มิใช่เป็นหญิงบัณเฑาะก์ หรือ
มิใช่เป็นหญิงคล้ายชาย หรือ
มิใช่เป็นหญิงมีมรรคระคนกัน หรือ
มิใช่เป็นหญิง 2 เพศ หรือ
อาพาธเหมือนอย่างนี้ ของเธอ มีหรือ คือ
โรคเรื้อน ฝี โรคกลาก โรคมองคร่อ ลมบ้าหมู
เธอเป็นมนุษย์ หรือ
เป็นหญิง หรือ
เป็นไทย หรือ
ไม่มีหนี้สิน หรือ
ไม่เป็นราชภัฏ หรือ
มารดาบิดา สามี อนุญาตแล้ว หรือ
มีอายุครบ 20 ปีแล้ว หรือ
มีบาตรจีวรครบแล้ว หรือ
เธอ ชื่ออะไร

ปวัตตินีของเธอ ชื่ออะไร.
ภิกษุณีผู้สอนซ้อม กับนางอุปสัมปทาเปกขะมาพร้อมกัน. .. ไม่พึงมา
พร้อมกัน ภิกษุณีผู้สอนซ้อมพึงมาก่อนแล้วประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติ-
กรรมวาจา ว่าดังนี้ :-

ญัตติกรรมวาจา


แม่เจ้า เจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังดิฉัน นางชื่อนี้เป็นอุปสัมปทา-
เปกขะของแม่เจ้าชื่อนี้ นางอันดิฉันสอนซ้อมแล้ว ถ้าความพร้อม
พรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว นางชื่อนี้พึงมา.

ภิกษุณีนั้นพึงกล่าวว่า เธอจงมา พึงให้นางอุปสัมปทาเปกขะห่มผ้า
เฉวียงบ่า ให้ไหว้เท้าภิกษุทั้งหลาย ให้นั่งกระโหย่งประคองอัญชลี ขออุปสมบท
ว่าดังนี้ :-

คำขออุปสมบท


แม่เจ้า เจ้าข้า ดิฉันขออุปสมบทต่อสงฆ์ ขอสงฆ์โปรดเอ็นดูยกดิฉัน
ขึ้นเถิด เจ้าข้า.
แม่เจ้า เจ้าข้า ดิฉันขออุปสมบทกะสงฆ์ เป็นครั้งที่สอง ขอสงฆ์
โปรดเอ็นดูยกดิฉันขึ้นเถิด เจ้าข้า.
แม่เจ้า เจ้าข้า ดิฉันขออุปสมบทกะสงฆ์ เป็นครั้งที่สาม ขอสงฆ์
โปรดเอ็นดูยกดิฉันขึ้นเถิด เจ้าข้า.
ภิกษุณีผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติกรรม-
วาจา ว่าดังนี้:-