เมนู

บาตรอันสงฆ์หงายแล้วแก่เจ้าวัฑฒลิจฉวี คือ ทำให้คบกับ
สงฆ์ได้ ชอบแก่สงฆ์เหตุนั้น จึงนิ่ง ข้าพเจ้าทรงความนี้ไว้ด้วยอย่างนี้.

[119] ครั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ในเขตพระนครเวสาลี
ตามพระพุทธาภิรมย์แล้ว เสด็จจาริกทางภัคคชนบท เสด็จจาริกโดยลำดับ
ถึงภัคคชนบทแล้ว ทราบว่า พระองค์ประทับอยู่ที่เภสกฬามฤคทายวัน เขต
เมืองสุงสุมารคิระ ในแคว้นภัคคชนบทนั้น

เรื่องโพธิราชกุมาร


[120] สมัยนั้น ปราสาทโกกนุทของโพธิราชกุมาร สร้างเสร็จใหม่ๆ
ยังไม่มีสมณพราหมณ์ หรือผู้ใดผู้หนึ่งอยู่อาศัย จึงโพธิราชกุมาร รับสั่ง
กะมาณพสัญชิกาบุตรว่า พ่อสหายสัญชิกาบุตร เธอจงเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า
ถวายบังคมพระบาทด้วยเศียรเกล้า แล้วถามถึงพระประชวรเบาบาง พระโรค-
น้อย ความทรงกระปรี้กระเปร่า พระกำลัง ทรงพระสำราญ ตามคำของเราว่า
พระพุทธเจ้าข้า โพธิราชกุมารขอถวายบังคมพระบาทของพระองค์ด้วยเศียร.
เกล้า ทูลถามถึงพระประชวรเบาบาง พระโรคน้อย ความทรงกระปรี้กระเปร่า
พระกำลัง ทรงพระสำราญและจงทูลอาราธนาอย่างนี้ว่า ขอพระองค์พร้อมด้วย
ภิกษุสงฆ์ จงทรงรับภัตตาหารของโพธิราชกุมาร เพื่อเสวยในวันพรุ่งนี้ พระ
พระพุทธเจ้าข้า มาณพสัญชิกาบุตรรับคำสั่งโพธิราชกุมาร แล้วเข้าไปเฝ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้า กราบทูลปราศรัยกับพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นผ่านการ
ปราศรัยพอเป็นที่ชื่นชม เป็นที่ให้ระลึกถึงกันแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
กราบทูลว่า โพธิราชกุมารขอถวายบังคมพระบาทของพระองค์ผู้เจริญ ด้วย
เศียรเกล้า ทูลถามพระประชวรเบาบาง พระโรคน้อย ทรงกระปรี้กระเปร่า
พระกำลัง ทรงพระสำราญ และกราบทูลอย่างนี้ว่า ขอพระโคดมผู้เจริญพร้อม

ด้วยภิกษุสงฆ์ จงทรงรับภัตตาหารของโพธิราชกุมาร เพื่อเสวยในวันพรุ่งนี้
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับด้วยดุษณีภาพ ครั้นมาณพสัญชิกาบุตรทราบว่า
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับอาราธนาแล้วลุกจากที่นั่งงเข้าไปเฝ้าโพธิราชกุมาร
แล้วทูลว่า เกล้ากระหม่อมได้กราบทูลท่านพระโคดมนั้นตามรับสั่งของพระองค์
แล้วว่า โพธิราชกุมาร ขอถวายบังคมพระบาทของท่านพระโคดมผู้เจริญด้วย
เศียรเกล้า ทูลถามถึงพระประชวรเบาบาง พระโรคน้อย ทรงกระปรี้กระเปร่า
พระกำลัง ทรงพระสำราญ และทราบทูลอย่างนี้ว่า ขอพระโคดมผู้เจริญ
พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ จงทรงรับภัตตาหารของโพธิราชกุมาร เพื่อเสวยในวัน
พรุ่งนี้ ก็แลพระสมณโคดมทรงรับอาราธนาแล้ว..
[121] ครั้นล่วงราตรีนั้น โพธิราชกุมารรับสั่งให้ตกแต่งของเคี้ยว
ของฉันอันประณีตแลรับสั่งให้ปูลาดโกกนุทปราสาทด้วยผ้าขาวตราบเท่าถึงบันได
ขึ้นที่สุดแล้วรับสั่งกะมาณพสัญชิกาบุตรว่า พ่อสหายสัญชิกาบุตร เธอจงไปเฝ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้า กราบทูลภัตกาลแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ได้เวลาแล้ว
พระพุทธเจ้าข้า ภัตตาหารเสร็จ แล้ว มาณพสัญชิกาบุตรรับคำสำสั่งโพธิราชกุมาร
แล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า กราบทูลภัตกาลแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
ได้เวลาแล้ว พระพุทธเจ้าข้า ภัตตาหารเสร็จแล้ว.
[122] ขณะนั้นเป็นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงครองอันตรายหรวาสก
แล้วทรงถือบาตรจีวร เสด็จเข้าสู่นิเวศน์ของโพธิราชกุมาร ก็แลเวลานั้น โพธิ-
ราชกุมารกำลังประทับรอพระผู้มีพระภาคเจ้าอยู่ ที่ซุ้มนพระทวารชั้นนอก ได้
ทอดพระเนตรเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้ากำลังเสด็จมาแต่ไกล ้ ครั้นแล้วเสด็จ
รับแต่ที่ไกลนั้น ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าให้เสด็จไปข้างหน้า ทรงคำเนิน
ไปทางโกกนุทปราสาท พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ประทับยืนอยู่ใกล้บันไดขั้นแรก

จึงโพธิราชกุมาร กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า พระพุทธเจ้าข้า ขอพระผู้มี
พระภาคเจ้าทรงเหยียบผ้า ขอพระสุคตจงทรงเหยียบผ้า เพื่อความเกื้อกูล
เพื่อความสุขแก่ข้าพระพุทธเจ้าสิ้นกาลนาน เมื่อโพธิราชกุมารกราบทูลอย่างนี้
แล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงดุษณีภาพ
แม้ครั้งที่สอง. . . แม้ครั้งที่สาม โพธิราชกุมารกราบทูลพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าว่า พระพุทธเจ้าข้า ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าจงทรงเหยียบผ้า ขอพระสุคต
จงทรงเหยียบผ้าเพื่อความเกื้อกูล เพื่อความสุข แก่ข้าพระพุทธเจ้าสิ้นกาลนาน
ขณะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงชำเลืองดูท่านพระอานนท์ จึงท่าน
พระอานนท์ได้ถวายพรแก่โพธิราชกุมารว่า จงม้วนผ้าเถิด พระราชกุมาร
พระผู้มีพระภาคเจ้าจักไม่ทรงเหยียบผ้า พระตถาคตอนุเคราะห์หมู่ชนชั้นหลัง
จึงโพธิราชกุมารรับสั่งให้ม้วนผ้า แล้วให้ปูอาสนะ ณ เบื้องบนโกกนุทปราสาท
ครั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าเสร็จขึ้นโกกนุทปราสาท แล้วประทับนั่งเหนืออาสนะที่
ปูถวายพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ จึงโพธิราชกุมารทรงอังคาสภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธ-
เจ้าเป็นประมุข ด้วยขาทนียโภชนียาหารอันประณีต ด้วยพระหัตถ์ของพระองค์
จนพระผู้มีพระภาคเจ้าเสวยแล้ว ทรงลดพระหัตถ์จากบาตร ห้ามภัตรแล้ว ได้
ประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงชี้แจง ให้โพธิราช-
กุมารเห็นแจ้ง สมาทาน อาจหาญร่าเริง ด้วยธรรมีกถา เสด็จลุกจากอาสนะ
เสด็จกลับ.

ทรงห้ามเหยียบแผ่นผ้า


[123] หลังจากนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำธรรมีกถาในเพราะ
เหตุเป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงเหยียบผืนผ้าที่ปูไว้ รูปใดเหยียบ ต้องอาบัติ
ทุกกฏ.