เมนู

องค์แห่งการคว่ำบาตร


[113] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงคว่ำบาตรแก่อุบาสกผู้ประกอบ
ด้วยองค์ 8 คือ :-
1. ขวนขวายเพื่อมิใช่ลาภแห่งภิกษุทั้งหลาย
2. ขวนขวายเพื่อมิใช่ประโยชน์แห่งภิกษุทั้งหลาย
3. ขวนขวายเพื่ออยู่ไม่ได้แห่งภิกษุทั้งหลาย
4. ด่าว่าเปรียบเปรยภิกษุทั้งหลาย
5. ยุยงภิกษุทั้งหลายให้แตกกัน
6. กล่าวติเตียนพระพุทธเจ้า
7. กล่าวติเตียนพระธรรม
8. กล่าวติเตียนพระสงฆ์.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้คว่ำบาตรแก่อุบาสกผู้ประกอบด้วย
องค์ 8 นี้ .
[114] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แล สงฆ์พึงคว่ำบาตรอย่างนี้ ภิกษุ
ผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติทุติยกรรมวาจา ว่าดังนี้ :-

กรรมวาจาคว่ำบาตร


ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า เจ้าวัฑฒลิจฉวี โจท
ท่านพระทัพพมัลลบุตรด้วยศีลวิบัติอันไม่มีมูล ถ้าความพร้อมพรั่ง
ของสงฆ์ ถึงที่แล้ว สงฆ์พึงคว่ำบาตรแก่เจ้าวัฑฒลิจฉวี คือ อย่าให้
คบกับสงฆ์ นี้เป็นญัตติ.


ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า เจ้าวัฑฒลิจฉวีโจทท่าน
พระทัพพมัลบุตรด้วยศีลวิบัติอันไม่มีมูล สงฆ์คว่ำบาตรแก่เจ้า-
วัฑฒลิจฉวี คือ ไม่ให้คบกับสงฆ์ การคว่ำบาตรแก่เจ้าวัฑฒลิจฉวี
คือไม่ให้คบกับสงฆ์ ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงเป็นผู้นิ่ง ไม่
ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงพูด.
บาตรอันสงฆ์คว่ำแล้วแก่เจ้าวัฑฒลิจฉวี คือ ไม่ให้คบกับ
สงฆ์ชอบแก่สงฆ์ เหตุนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้าทรงความนี้ไว้ด้วยอย่างนี้.

[115] ครั้นเวลาเช้า ท่านพระอานนท์ครองอันตรวาสกแล้วถือบาตร
จีวร เข้าไปยังนิเวศน์ของเจ้าวัฑฒลิจฉวี ครั้นแล้วได้กล่าวคำนี้กะเจ้าวัฑฒ-
ลิจฉวีว่า ท่านวัฑฒะ สงฆ์คว่ำบาตรแก่ท่านแล้ว ท่านคบกับสงฆ์ไม่ได้ พอ-
เจ้าวัฑฒลิจฉวีทราบข่าวว่า สงฆ์คว่ำบาตรแก่เราแล้ว เราคบกับสงฆ์ไม่ได้แล้ว
ก็สลบล้มลง ณ ที่นั้นเอง.
ขณะนั้น มิตรอำมาตย์ญาติสาโลหิต ของเจ้าวัฑฒลิจฉวี ได้กล่าว
คำนี้กะเจ้าวัฑตลิจฉวีว่า ไม่ควร ท่านวัฑฒะ อย่าเศร้าโศก อย่าคร่ำครวญ
ไปนักเลย พวกเราจักให้พระผู้มีพระภาคเจ้าและภิกษุสงฆ์เลื่อมใส จึงเจ้า
วัฑฒลิจฉวี พร้อมด้วยบุตรภรรยา พร้อมด้วยมิตรอำมาตย์ พร้อมด้วย
ญาติสาโลหิต มีผ้าเปียก มีผมเปียก เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ซบศีรษะ
ลงแทบพระบาทของพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วกราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า
โทษได้มาถึงหม่อมฉันแล้ว ตามความโง่ ตามความเขลา ตามอกุศล ขอ
พระองค์ทรงพระกรุณารับโทษของหม่อมฉันที่ได้โจทพระคุณเจ้าทัพพมัลลบุตร
ด้วยศีลวิบัติอันไม่มีมูล โดยความเป็นโทษ เพื่อความสำรวมต่อไปเถิด
พระพุทธเจ้าข้า.

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า เชิญเถิด เจ้าวัฑฒะ โทษได้มาถึงท่านแล้ว
ตามความโง่ ตามความเขลา ตามอกุศล ท่านได้เห็นโทษ ที่ได้โจททัพพมัลลบุตร
ด้วยศีลวิบัติอันไม่มีมูล โดยความเป็นโทษแล้วทำคืนตามธรรม เราขอรับโทษ
นั้นของท่าน การที่ท่านเห็นโทษ โดยความเป็นโทษ แล้วทำคืนตามธรรม
ถึงความสำรวมต่อไป นี้เป็นความเจริญในอริยวินัย
[116] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย ถ้าเช่นนั้น สงฆ์จงหงายบาตร แก่เจ้าวัฑฒลิจฉวี คือ ทำให้
คบกับสงฆ์ได้.

องค์แห่งการหงายบาตร


ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงหงายบาตรแก่อุบาสก ผู้ประกอบด้วย
องค์ 8 คือ :-
1. ไม่ขวนขวายเพื่อมิใช่ลาภแห่งภิกษุทั้งหลาย
2. ไม่ขวนขวายเพื่อไม่เป็นประโยชน์แห่งภิกษุทั้งหลาย
3 . ไม่ขวนขวายเพื่ออยู่ไม่ได้แห่งภิกษุทั้งหลาย
4. ไม่ด่าว่าเปรียบเปรยภิกษุทั้งหลาย
5. ไม่ยุยงภิกษุทั้งหลายให้แตกร้าวกัน
6. ไม่กล่าวติเตียนพระพุทธเจ้า
7. ไม่กล่าวติเตียนพระธรรม
8. ไม่กล่าวติเตียนพระสงฆ์.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้หงายบาตร แก่อุบาสกผู้ประกอบ
ด้วยองค์ 8 นี้.