เมนู

ผู้ทำลายสงฆ์ต้องเกิดในอบาย


[411] ท่านพระอุบาลีทูลถามว่า มีหรือ พระพุทธเจ้าข้า ภิกษุผู้
ทำลายสงฆ์ต้องเกิดในอบาย ตกนรก อยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า มี อุบาลี ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์ ต้องเกิดใน
อบาย ตกนรก อยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้
อุ. และมีหรือ พระพุทธเจ้าข้า ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์ ไม่ต้องเกิดใน
อบาย ไม่ตกนรก ไม่ตั้งอยู่ชั่วกัป พอช่วยเหลือได้
พ. มี อุบาลี ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์ ไม่ต้องเกิดในอบาย ไม่ตกนรก
ไม่ตั้งอยู่ชั่วกัป พอช่วยเหลือได้
อุ. พระพุทธเจ้าข้า ก็ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์ ต้องเกิดในอบาย ตกนรก
อยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้ เป็นไฉน
พ. ดูก่อนอุบาลี ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมแสดงอธรรมว่า เป็นธรรม
มีความเห็นในธรรมนั้นว่าเป็นอธรรม มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นอธรรม
อำพรางความเห็น อำพรางความถูกใจ อำพรางความชอบใจ อำพรางความ
จริง ย่อมประกาศให้จับสลากว่า นี้ธรรม นี้วินัย นี้สัตถุศาสน์ ท่านทั้งหลาย
จงจับสลากนี้ จงชอบใจสลากนี้
ดูก่อนอุบาลี ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์แม้นี้แล ต้องเกิดในอบาย ตกนรก
อยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้
อนึ่ง อบาลี ภิกษุย่อมแสดงอธรรมว่า เป็นธรรม มีความเห็นในธรรม
นั้นว่าเป็นอธรรม มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นธรรม อำพรางความเห็น
อำพรางความถูกใจ อำพรางความชอบใจ อำพรางความจริง ย่อมประกาศให้
จับสลากว่า นี้ธรรม นี้วินัย นี้สัตถุศาสน์ ท่านทั้งหลายจงจับสลากนี้ จงชอบ
ใจสลากนี้

ดูก่อนอุบาลี ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์นี้แล ต้องเกิดในอบาย ตกนรก อยู่
ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้
อนึ่ง อุบาลี ภิกษุย่อมแสดงอธรรมว่าเป็นธรรม มีความเห็นในธรรม
นั้นว่าเป็นอธรรม มีความสงสัยในความแตกกัน อำพรางความเห็น อำพราง
ความถูกใจ อำพรางความชอบใจ อำพรางความจริง ย่อมประกาศให้จับสลาก
ว่านี้ธรรม นี้วินัย นี้สัตถุศาสน์ ท่านทั้งหลายจงจับสลากนี้ จงชอบใจสลากนี้
ดูก่อนอุบาลี ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์แม้นี้แล ต้องเกิดในอบาย ตกนรก
อยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้
อนึ่ง อุบาลี ภิกษุย่อมแสดงอธรรมว่าเป็นธรรม มีความเห็นใน
อธรรมนั้นว่าเป็นธรรม มีความเห็นในการแตกกันว่าเป็นอธรรม . . .
. . .มีความเห็นในอธรรมนั้นว่าเป็นธรรมมีความสงสัยในความแตก
กัน. . .
. . . มีความสงสัยในอธรรมนั้น มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็น
อธรรม. . .
. . . มีความสงสัยในอธรรมนั้นมีความเห็นในความแตกกันว่าเป็น
ธรรม. . .
. . . มีความสงสัยในอธรรมนั้น มีความสงสัยในความแตกกัน อำพราง
ความเห็น อำพรางความถูกใจ อำพรางความชอบใจ อำพรางความจริง ย่อม
ประกาศให้จับสลากว่า นี้ธรรม นี้วินัย นี้สัตถุศาสน์ ท่านทั้งหลายจงจับ
สลากนี้ จงชอบใจสลากนี้
ดูก่อนอุบาลี ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์แม้นี้แล ต้องเกิดในอบาย ตกนรก
อยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้

อนึ่ง อุบาลี ภิกษุย่อมแสดงธรรมว่าเป็นอธรรม. . . ย่อมแสดงสิ่งมิ
ใช่วินัยว่าเป็นวินัย ย่อมแสดงวินัยว่ามิใช่วินัย ย่อมแสดงคำอันตถาคตมิได้ตรัส
ภาษิตไว้ ว่าเป็นคำอันตถาคตตรัสภาษิตไว้ ย่อมแสดงคำอันตถาคตตรัสภาษิต
ไว้ว่า เป็นคำอันตถาคตมิได้ตรัสภาษิตไว้ ย่อมแสดงกรรมอันตถาคตมิได้ประ-
พฤติมาว่า เป็นกรรมอันตถาคตพระพฤติมาแล้ว ย่อมแสดงกรรมอัน ตถาคตประ-
พฤติมาแล้วว่าเป็นกรรมอันตถาคตมิได้พระพฤติมาแล้ว ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคต
มิได้บัญญัติไว้ว่าเป็นสิ่งที่ตถาคตบัญญัติไว้ ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตบัญญัติไว้ว่า
เป็นสิ่งที่ตถาคตมิได้บัญญัติไว้ ย่อมแสดงอนาบัติว่าเป็นอาบัติ ย่อมแสดงอาบัติ
ว่าเป็นอนาบัติ ย่อมแสดงอาบัติเบาว่าเป็นอาบัติหนัก ย่อมแสดงอาบัติหนักว่า
เป็นอาบัติเบา ย่อมแสดงอาบัติมีส่วนเหลือว่าเป็นอาบัติหาส่วนเหลือมิได้ ย่อม
แสดงอาบัติหาส่วนเหลือมิได้ว่าเป็นอาบัติมีส่วนเหลือ ย่อมแสดงอาบัติชั่วหยาบ
ว่าเป็นอาบัติไม่ชั่วหยาบ ย่อมแสดงอาบัติไม่ชั่วหยาบว่าเป็นอาบัติชั่วหยาบ มี
ความเห็นในธรรมนั้นว่าเป็นอธรรม มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นอธรรม
มีความเห็นในธรรมนั้นว่าเป็นอธรรม มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นธรรม
มีความเห็นในธรรมนั้นว่าเป็นอธรรม มีความสงสัยในความแตกกัน มีความ
เห็นในธรรมนั้นว่าเป็นธรรม มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นอธรรม มี
ความเห็นในธรรมนั้นว่าเป็นธรรม มีความสงสัยในความแตกกัน มีความสงสัย
ในธรรมนั้น มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นอธรรม มีความสงสัยในธรรม
นั้น มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นธรรม มีความสงสัยในธรรมนั้น มี
ความสงสัยในความแตกกัน อำพรางความเห็น อำพรางความถูกใจ อำพราง
ความชอบใจ อำพรางความจริง ย่อมประกาศให้จับสลากว่า นี้ธรรม นี้วินัย
นี้สัตถุศาสน์ ท่านทั้งหลายจงจับสลากนี้ จงชอบใจสลากนี้.

ดูก่อนอุบาลี ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์แม้นี้แล ต้องเกิดในอบาย ตกนรก
อยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้.

ผู้ทำลายสงฆ์ไม่ต้องเกิดในอบาย


[412] ท่านพระอุบาลีทูลถามว่า พระพุทธเจ้าข้า ก็ภิกษุผู้ทำลาย
สงฆ์ไม่ต้องเกิดในอบาย ไม่ตกนรก อยู่ชั่วกัป พอช่วยเหลือได้ เป็นไฉน.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนอุบาลี ภิกษุในธรรมวินัยนี้ย่อม
แสดงอธรรมว่าเป็นธรรม มีความเห็นในอธรรมนั้นว่าเป็นธรรม มีความเห็น
ในความความแตกกันว่าเป็นธรรม ไม่อำพรางความเห็น ไม่อำพรางความถูก
ใจ ไม่อำพรางความชอบใจ ไม่อำพรางความจริง ย่อมประกาศให้จับสลากว่า
นี้ธรรม นี้วินัย นี้สัตถุศาสน์ ท่านทั้งหลายจงจับสลากนี้ จงชอบใจสลากนี้.
ดูก่อนอุบาลี ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์แม้นี้แล ไม่ต้องเกิดในอบาย ไม่ตก
นรกอยู่ชั่วกัป พอช่วยเหลือได้.
อนึ่ง อุบาลี ภิกษุย่อมแสดงธรรมว่าเป็นอธรรม . . . ย่อมแสดงอาบัติ
ชั่วหยาบว่าเป็นอาบัติไม่ชั่วหยาบ มีความเห็นในธรรมนั้นว่าเป็นธรรม มีความ
เห็นในความแตกกันว่าเป็นธรรม ไม่อำพรางความเห็น ไม่อำพรางความถูกใจ
ไม่อำพรางความชอบใจ ไม่อำพรางความจริง ย่อมประกาศให้จับสลากว่า นี้.
ธรรม นี้วินัย นี้สัตถุศาสน์ ท่านทั้งหลาย จงจับสลากนี้ จงชอบใจสลากนี้.
ดูก่อนอุบาลี ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์แม้นี้แล ไม่ต้องเกิดในอบาย ไม่ตก
นรกอยู่ชั่วกัป พอช่วยเหลือได้.
ตติยภาณวาร จบ
สังฆเภทขันธกะที่ 7 จบ