เมนู

นิคมคาถา


[408] ภิกษุทำลายสงฆ์ต้องเกิดใน
อบาย ตกนรก อยู่ชั่วกัป ภิกษุผู้ยินดีในการ
แตกพวก ไม่ตั้งอยู่ในธรรม ย่อมเสื่อมจาก
ธรรมอันเกษมจากโยคะ ภิกษุทำลายสงฆ์ผู้
พร้อมเพรียงกัน แล้วย่อมไหม้ในนรกตลอด
กัป.

[409] ท่านพระอุบาลีทูลถามว่า พระพุทธเจ้าข้า ก็ภิกษุสมานสงฆ์
ที่แตกกันแล้วให้พร้อมเพรียงกัน จะได้รับผลอย่างไร
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนอุบาลี ภิกษุสมานสงฆ์ที่แตกกัน
แล้วให้พร้อมเพรียงกัน ย่อมได้บุญอันประเสริฐ ย่อมบันเทิงในสรวงสวรรค์
ตลอดกัป.

นิคมคาถา


[410] ความพร้อมเพรียงของหมู่
เป็นเหตุแห่งสุข และการสนับสนุนผู้พร้อม
เพียงกัน ก็เป็นเหตุแห่งสุข ภิกษุผู้ยินดีใน
ความพร้อมเพรียงตั้งอยู่ในธรรม ย่อมไม่
เสื่อมจากธรรมอันเกษมจากโยคะ ภิกษุสมาน
สงฆ์ ให้พร้อมเพรียงกันแล้ว ย่อมบันเทิง
ในสรวงสวรรค์ตลอดกัป.

ผู้ทำลายสงฆ์ต้องเกิดในอบาย


[411] ท่านพระอุบาลีทูลถามว่า มีหรือ พระพุทธเจ้าข้า ภิกษุผู้
ทำลายสงฆ์ต้องเกิดในอบาย ตกนรก อยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า มี อุบาลี ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์ ต้องเกิดใน
อบาย ตกนรก อยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้
อุ. และมีหรือ พระพุทธเจ้าข้า ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์ ไม่ต้องเกิดใน
อบาย ไม่ตกนรก ไม่ตั้งอยู่ชั่วกัป พอช่วยเหลือได้
พ. มี อุบาลี ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์ ไม่ต้องเกิดในอบาย ไม่ตกนรก
ไม่ตั้งอยู่ชั่วกัป พอช่วยเหลือได้
อุ. พระพุทธเจ้าข้า ก็ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์ ต้องเกิดในอบาย ตกนรก
อยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้ เป็นไฉน
พ. ดูก่อนอุบาลี ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมแสดงอธรรมว่า เป็นธรรม
มีความเห็นในธรรมนั้นว่าเป็นอธรรม มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นอธรรม
อำพรางความเห็น อำพรางความถูกใจ อำพรางความชอบใจ อำพรางความ
จริง ย่อมประกาศให้จับสลากว่า นี้ธรรม นี้วินัย นี้สัตถุศาสน์ ท่านทั้งหลาย
จงจับสลากนี้ จงชอบใจสลากนี้
ดูก่อนอุบาลี ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์แม้นี้แล ต้องเกิดในอบาย ตกนรก
อยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้
อนึ่ง อบาลี ภิกษุย่อมแสดงอธรรมว่า เป็นธรรม มีความเห็นในธรรม
นั้นว่าเป็นอธรรม มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นธรรม อำพรางความเห็น
อำพรางความถูกใจ อำพรางความชอบใจ อำพรางความจริง ย่อมประกาศให้
จับสลากว่า นี้ธรรม นี้วินัย นี้สัตถุศาสน์ ท่านทั้งหลายจงจับสลากนี้ จงชอบ
ใจสลากนี้