เมนู

[77] สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายถูกยุงรบกวน จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่
พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตมุ้ง.

เรื่องที่จงกรมและเรื่องไฟ


[78] สมัยนั้น ทายกทายิกาในพระนครเวสาลีเริ่มจัดปรุงอาหาร
ประณีตขึ้นตามลำดับ ภิกษุทั้งหลายฉันอาหารอันประณีตแล้ว มีร่างกายอันโทษ
สั่งสม มีอาพาธมาก ครั้งนั้น หมอชีวกโกมารภัจได้ไปสู่เมืองเวสาสีด้วยกิจจำ
เป็นบางอย่างได้เห็นภิกษุทั้งหลาย มีร่างกาย้อนโทษสั่งสม มีอาพาธมาก ครั้น
แล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ถวายบังคมแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า พระพุทธเจ้าข้า บัดนี้ ภิกษุทั้งหลาย มี
ร่างกายอันโทษสั่งสม มีอาพาธมาก ข้าพระพุทธเจ้าขอประทานพระวโรกาส ขอ
พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้โปรดทรงอนุญาตที่จงกรมและเรือนไฟแก่ภิกษุทั้งหลาย
เถิด พระพุทธเจ้าข้า เมื่อเป็นเช่นนี้ ภิกษุทั้งหลายจักมีอาพาธน้อย.
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงชี้แจงให้หมอชีวกโกมารภัจเห็นแจ้ง
สมาทาน อาจหาญ... ร่าเริงด้วยธรรมีกถา จึงหมอชีวกโกมารภัจลุกจากที่นั่ง
ถวายบังคมพระผู้มีภาคเจ้า ทำประทักษิณกลับไป.

พุทธานุญาตที่จงกรมและเรือนไฟ


[79] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงธรรมีกถาในเพราะเหตุเป็น
เค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุ แรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อน-
ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตที่จงกรมและเรือนไฟ.

[80] สมัยต่อมา ภิกษุทั้งหลายจงกรมในที่ขรุขระ เท้าเจ็บ จึงกราบ
ทูลเรื่องนั้นแค่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย เราอนุญาตให้ทำจงกรมให้เรียบ.
[81] สมัยต่อมา ที่จงกรมมีพื้นที่ต่ำ น้ำท่วม . . .ตรัสว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ทำที่จงกรมให้สูง ที่ถมพังลง .. ตรัสว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ก่อมูลดินที่ถม 3 ชนิด คือ ก่อด้วยอิฐ 1 ก่อ
ด้วยหิน 1 ก่อด้วยไม้ 1 ภิกษุทั้งหลายขึ้นลงลำบาก . . ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย เราอนุญาตบันได 3 ชนิด คือ บันไดอิฐ 1 บันไดหิน 1 บันได
ไม้ 1 ภิกษุทั้งหลายขึ้นลงพลัดตก ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาต
ราวสำหรับยึด.
[82] สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายจงกรมอยู่ในที่จงกรม พลัดตกลงมา
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส
ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตรั้วรอบที่จงกรม.
[83] สมัยต่อมา ภิกษุทั้งหลายจงกรมอยู่กลางแจ้ง ลำบาก ด้วย
หนาวบ้าง ร้อนบ้าง ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้น แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตโรงจงกรม ผง
หญ้าที่มุ่งหล่นเกลื่อนในโรงจงกรม .. . ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาต
ให้รื้อลงแล้วฉาบด้วยดินทั้งข้างนอกข้างใน ทำให้มีสีขาว สีดำ สีเหลือง จำ
หลักเป็นพวงดอกไม้ เครือไม้ ฟันมังกร ดอกจอกห้ากลีบ ราวจีวร สาย
ระเดียงจีวร.
[84] สมัยนั้น เรือนไฟมีพื้นต่ำไป น้ำท่วมได้ ตรัสว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ถมพื้นให้สูง พื้นที่ถมพังลงมา. ..ตรัสว่า ดูก่อน

ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ก่อมูลดินที่ถม 3 ชนิด คือ ก่อด้วยอิฐ 1 ก่อ
ด้วยหิน 1 ก่อด้วยไม้ 1 ภิกษุทั้งหลายขึ้นลงลำบาก ...ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย เราอนุญาตบันได 3 ชนิด คือ บันไดอิฐ 1 บันไดหิน 1 บันได
ไม้ 1 ภิกษุทั้งหลายขึ้นลงพัดตกลงมา . . .ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรา
อนุญาตราวสำหรับยึด เรือนไฟไม่มีบานประตู. ..ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เราอนุญาตบานประตู กรอบเช็ดหน้า ครกรองเดือยประตู ห่วงข้างบน สายยู
ไม้หัวลิง กลอน ลิ่ม ช่องดาล ช่องสำหรับชักเชือก เชือกสำหรับชัก เชิง
ฝาเรือนไฟชำรุด ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแค่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ก่อให้ต่ำ เรือนไฟ
ไม่มีปล่องควัน . . . ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตปล่องควัน.
[85] สมัยต่อมา ภิกษุทั้งหลายทำที่ตั้งเตาไฟไว้กลางเรือนไฟขนาด
เล็กไม่มีอุปจาร . . . ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ทำหน้าที่ตั้ง
เตาไฟไว้ส่วนข้างหนึ่ง เฉพาะเรือนไฟขนาดเล็ก เรือนไฟขนาดกว้าง ตั้งไว้
ตรงกลางได้ ไฟในเรือนไฟลวกหน้า . . .ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรา
อนุญาตดินสำหรับทาหน้า ภิกษุทั้งหลายละลายดินด้วยมือ.. .ตรัสว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตรางสำหรับละลายดิน ดินมีกลิ่นเหม็น. ..ตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้อบกลิ่น.
[86] สมัยต่อมา ไฟในเรือนไฟลนกาย ...ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย เราอนุญาตให้ตักน้ำมาไว้มาก ๆ ภิกษุทั้งหลายใช้ถาดบ้าง บาตรบ้าง
ตักน้ำ ...ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตที่ขังน้ำ ขันตักน้ำ เรือนไฟ
ที่มุงด้วยหญ้าไหม้เกรียม . . . ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้รื้อลง
ฉาบดินทั้งข้างบนข้างล่าง เรือนไฟเป็นตม . . . ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย

เราอนุญาตให้ปูเครื่องลาด 3 อย่าง คือเครื่องลาดอิฐ 1 เครื่องลาดหิน 1
เครื่องลาดไม้ 1 เรือนไฟก็ยังเป็นตมอยู่นั่นเอง . .. ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เราอนุญาตให้ชำระล้างน้ำขัง . . .ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตท่อ
ระบายน้ำ.
[87] สมัยต่อมา ภิกษุทั้ง หลายนั่งบนพื้นดินในเรือนไฟ เนื้อตัว
คัน . .ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตตั่งในเรือนไฟ.
[88] สมัยต่อมา เรือนไฟยังไม่มีเครื่องล้อม. . . ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย เราอนุญาตให้ล้อมรั้ว 3 อย่าง คือ รั้วอิฐ 1 รั้วหิน 1 รั้วไม้ 1
ซุ้มไม่มี. . . ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตซุ้ม ซุ้มต่ำไป น้ำท่วม
ได้. . .ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ทำพื้นที่ให้สูง พื้นที่ก่อพัง
. . . ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ก่อมูลดิน 3 อย่าง คือ ก่อด้วย
อิฐ 1 ก่อด้วยหิน 1 ก่อด้วยไม้ 1 ภิกษุทั้งหลายขึ้นลงลำบาก . .ตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตบันได 3 อย่าง คือ บันไดอิฐ 1 บันไดหิน 1
บันไดไม้ 1 ภิกษุทั้งหลายขึ้นลงพลัดตกลงมา ...ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เราอนุญาตราวสำหรับยึด ซุ้มยังไม่มีประตู . . . ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เราอนุญาตผ่านประตู กรอบเช็ดหน้า ครกรองรับเดือยบานประตู ห่วงข้างบน
สายยู ไม้หัวลิง กลอน ลิ่ม ช่องดาล ช่องเชือกชัก เชือกชัก.
[89] สมัยต่อมา ผงหญ้าหล่นเกลื่อนซุ้ม. . .ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย เราอนุญาตให้รื้อลงฉาบดินทั้งข้างบนข้างล่าง ทำให้มีสีขาว สีดำ
สีเหลือง จำหลักเป็นพวงดอกไม้ เครือไม้ ฟันมังกร ดอกจอกห้ากลีบ
บริเวณเป็นตม ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้โรยกรวดแร่
กรวดแร่ยังไม่เต็ม . . . ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้วางศิลาเรียบ
น้ำขัง. . . ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตท่อระบายน้ำ.

เรื่องการเปลือยกาย


[90] สมัยนั้น ภิกษุเปลือยกายไหว้ภิกษุไม่เปลือยกาย ภิกษุเปลือย
กายให้ภิกษุเปลือยกายไหว้คน ภิกษุเปลือยกายให้ภิกษุไม่เปลือยกายไหว้ตน
ภิกษุเปลือยกายทำบริกรรมให้แก่ภิกษุเปลือยกาย ภิกษุเปลือยใช้ให้ทำบริกรรม
แก่ภิกษุเปลือยกาย ภิกษุเปลือยกายให้ของแก่ภิกษุเปลือยกาย ภิกษุเปลือยกาย
รับประเคน เปลือยกายเคี้ยว เปลือยกายฉัน เปลือยกายลิ้มรส เปลือยกายดื่ม
ภิกษุทั้งหลาย กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้า .. .ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเปลือยกาย
ไม่พึงไหว้ภิกษุเปลือยกาย ภิกษุเปลือยกายไม่พึงไหว้ภิกษุเปลือยกาย ไม่พึงให้
ภิกษุเปลือยกายไหว้ตน ภิกษุเปลือยกายไม่พึงให้ภิกษุไม่เปลือยกายไหว้ตน
ไม่พึงเปลือยกายทำบริกรรมแก่ภิกษุเปลือยกาย ไม่พึงใช้ภิกษุเปลือยกายทำ
บริกรรม ไม่พึงเปลือยกายให้ของแก่ภิกษุเปลือยกาย ไม่พึงเปลือยกายรับประเคน
ไม่พึงเปลือยกายเคี้ยวของ ไม่พึงเปลือยกายฉันอาหาร ไม่พึงเปลือยกายลิ้มรส
ไม่พึงเปลือยกายดื่ม รูปใดดื่ม ต้องอาบัติทุกกฏ.

เรื่องศาลาเรือนไฟและบ่อน้ำ


[91] สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายวางจีวรไว้บนพื้นดินในเรือนไฟ จีวร
เปื้อนฝุ่น ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มี-
พระภาคเจ้าตรัสว่า. . . ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตราวจีวร สายระเดียงจีวร
ในเรือนไฟ ครั้นฝนตกจีวรถูกฝนเปียก ตรัสว่า. . .ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรา
อนุญาตศาลาใกล้เรือนไฟ ศาลาใกล้เรือนไฟมีพื้นต่ำ น้ำท่วม...ตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ถมให้สูง ดินที่ถมพังลง...ตรัสว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ก่อมูลดิน. . . ภิกษุทั้งหลายขึ้นลงลำบาก...ขึ้นลง
พลัดตก .ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตนราวสำหรับยึด.