เมนู

บรรดาภัตเหล่านั้น ในสังฆภัตไม่มีลำดับเป็นธรรมดา, เพราะฉะนั้น
ในสังฆภัตนั้น ภิกษุทั้งหลายไม่ควรกล่าวอย่างนี้ว่า 10 วัน หรือ 12 วัน
ทั้งวันนี้แล้ว เฉพาะที่พวกเราฉัน, บัดนี้ท่านจงนิมนต์ภิกษุมาจากที่อื่นเถิด.
ทั้งไม่ได้เพื่อจะกล่าวอย่างนี้ว่า ในวันก่อน ๆ พวกเราไม่ได้เลย, บัดนี้ท่านจง
ให้พวกเรารับสังฆภัตนั้นบ้าง ดังนี้. เพราะว่า สังฆภัตนั้น ย่อมถึงแก่ภิกษุ
ผู้มาแล้ว ๆ เท่านั้น.

[ว่าด้วยอุทเทสภัต]


ส่วนในอุทเทสภัตเป็นต้น มีนัยดังนี้ :-
เมื่อพระราชาหรือมหาอมาตย์ของพระราชา ส่งคนไปนิมนต์ว่า ท่าน
จงเจาะจงสงฆ์ นิมนต์มาเท่านี้รูป ดังนี้ พระภัตตุทเทสก์ พึงแจ้งเวลาถามหา
ลำดับ, ถ้าลำดับมี พึงให้รับตั้งแต่ลำดับนั้น, ถ้าไม่มีพึงให้รับทั้งแต่เถรอาสน์
ลงมา, พระภัตตุทเทสก์อย่าพึงข้ามลำดับ แม้แห่งภิกษุผู้ถือเที่ยวบิณฑบาตเสีย.
อันภิกษุผู้ถือเที่ยวบิณฑบาตเหล่านั้น เมื่อจะรักษาธุดงค์ จักให้ข้ามเสียเอง.
เมื่อให้รับอยู่โดยวิธีอย่างนี้ พระมหาเถระผู้มีปกติเฉื่อยชา มาภายหลัง,
อย่ากล่าวกะท่านว่า ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้ากำลังให้ภิกษุ 20 พรรษารับ, ลำดับ
ของท่านเลยไปเสียแล้ว . พึงเว้นลำดับไว้ ให้พระมหาเถระเหล่านั้นรับเสร็จ
แล้วจึงให้รับตามลำดับในภายหลัง.
ภิกษุทั้งหลายได้ฟังข่าวว่า ที่สำนักโน้น อุทเทสภัตเกิดขึ้นมาก จึง
พากันมาแม้จากสำนักซึ่งมีระยะคั่นกันโยชน์หนึ่ง พึงให้ภิกษุเหล่านั้นรับ
จำเดิมแต่สถานที่พวกเธอมาทันแล้ว ๆ ยืนอยู่.
เมื่ออันเตวาสิกเป็นต้น จะรับแทนอาจารย์และอุปัชฌาย์แม้ผู้มาไม่ทัน
แต่เข้าอุปจารสีมาแล้ว พึงให้รับเถิด.