เมนู

[52] สมัยต่อมา ภิกษุทั้งหลายใช้กระเบื้องหม้อเที่ยวบิณฑบาตชาว
บ้านเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า. . .เหมือนพวกเดียรถีย์ ภิกษุทั้งหลาย
กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้า...ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงใช้
กระเบื้องหม้อเที่ยวบิณฑบาต รูปใดใช้ ต้องอาบัติทุกกฏ.
[53] สมัยต่อมา ภิกษุรูปหนึ่งใช้ของบังสกุลทุกอย่าง เธอใช้บาตร
กะโหลกผี สตรีผู้หนึ่งเห็นเข้า กลัว ได้ร้องเสียงวีดแสดงความหวาดเสียวว่า
นี้ปีศาจแน่ ชาวบ้านเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนพระสมณะเชื้อสาย
พระศากยบุตรจึงใช้บาตรกะโหลกผีเหมือนพวกปีศาจ ภิกษุทั้งหลายกราบทูล
เรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงใช้บาตร
กะโหลกผี รูปใดใช้ ต้องอาบัติทุกกฏ อนึ่ง ภิกษุไม่พึงใช้ของบังสุกุลทุกอย่าง
รูปใดใช้ ต้องอาบัติทุกกฏ.
[54] สมัยต่อมา ภิกษุทั้งหลายใช้บาตรรับเศษอาหารบ้าง ก้างบ้าง
น้ำบ้วนปากบ้าง ชาวบ้านเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนพระสมณะ
เชื้อสายพระศากยบุตรเหล่านี้จึงใช้บาตรต่างกระโถน ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่อง
นั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้า.. .ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงใช้
บาตรรับเศษอาหาร ก้าง หรือน้ำบ้วนปาก รูปใดใช้ ต้องอาบัติทุกกฏ เรา
อนุญาตให้ใช้กระโถน.

เรื่องจีวร


[55] สมัยต่อมา ภิกษุทั้งหลายใช้มือฉีกผ้าแล้ว เย็บเป็นจีวร จีวร
มีแนวไม่เสมอกัน ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า

พระผู้มีพระภาคเจ้า . ..ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้
ใช้มีดมีผ้าพัน.
[56] สมัยต่อมา มีดมีด้ามบังเกิดแก่สงฆ์ ภิกษุทั้งหลายกราบทูล
เรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ใช้มีด
มีด้าม.
[57] สมัยต่อมา พระฉัพพัคคีย์ใช้ด้ามมีดต่างๆ ทำด้วยทอง ทำด้วย
เงิน ชาวบ้านเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า . . .เหมือนพวกคฤหัสถ์ผู้บริโภค
กาม ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้า . . .ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงใช้
ด้ามมีดต่าง ๆ รูปใดใช้ ต้องอาบัติทุกกฏ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ใช้ด้ามมีดที่ทำด้วยกระดูก งา เขา
ไม้อ้อ ไม้ไผ่ ไม้ธรรมดา ครั่ง เมล็ดผลไม้ โลหะ และกระดองสังข์.
[58] สมัยต่อมา ภิกษุทั้งหลายใช้ขนไก่บ้าง ไม้กลัดบ้าง เย็บจีวร
จีวรเย็บแล้วไม่ดี ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้า . . .ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้
ใช้เข็ม เข็มขึ้นสนิม . . .ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ใช้กล่อง
เข็ม แม้ในกล่องเข็มก็ยังขึ้นสนิม . . . ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาต
ให้โรยด้วยแป้งข้าวหมาก แม้ในแป้งข้าวหมาก เข็มก็ยังขึ้นสนิม . . . ตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้โรยด้วยแป้งเจือขมิ้นผง แม้ในแป้งเจือขมิ้น
ผงเข็มก็ยังขึ้นสนิมได้ . . . ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ใช้ฝุ่น
หิน แม้ในฝุ่นหินเข็มก็ยังขึ้นสนิม... ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาต

ให้ทาด้วยขี้ผึ้ง ฝุ่นหินแตก . ..ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้
ใช้ผ้ามัดขี้ผึ้งพอกฝุ่นหิน.

เรื่องไม้สะดึง


[59] สมัยต่อมา ภิกษุทั้งหลายตอกหลักลงในที่นั้น ๆ ผูกขึงเย็บจีวร
จีวรเสียมุม ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้า...ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตไม้
สะดึง เชือกผูกไม้สะดึง ให้ผูกลงในที่นั้น ๆ เย็บจีวรได้ ภิกษุทั้งหลายขึงไม้
สะดึงในที่ไม่เรียบ ไม่สะดึงหัก . . .พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้ง
หลาย ภิกษุไม่พึงขึงไม้สะดึงในที่ไม่เสมอ รูปใดขึง ต้องอาบัติทุกกฏ
ภิกษุทั้งหลายขึงไม้สะดึงบนพื้นดิน ไม้สะดึงเปื้อนฝุ่น...ตรัสว่า ดู
ก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ใช้หญ้ารอง ขอบไม้สะดึงชำรุด ...ตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุหลาย เราอนุญาตให้ดามขอบเหมือนผ้าอนุวาต ไม้สะดึงไม่พอ...
ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตไม้สะดึงเล็ก ไม้ประกับ ซี่ไม้สำหรับ
สอดเข้าในระหว่างจีวรสองชั้น เชือกรัดสะดึงในกับสะดึงนอก ด้วยผูกจีวรลง
กับสะดึงใน ครั้นขึงแล้วจึงเย็บจีวร ด้วยเกษียนภายในไม่เสมอ ...ตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ทำหมาย เส้นด้ายคด...ตรัสว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตเส้นด้ายตีบรรทัด.
[60] สมัยต่อมา ภิกษุทั้งหลายมีเท้าเปื้อนเหยียบไม้สะดึง ไม้สะดึงเสีย
หาย ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้า ...ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุมีเท้าเปื้อน
ไม่พึงเหยียบไม้สะดึง รูปใดเหยียบ ต้องอาบัติทุกกฏ.