เมนู

[ว่าด้วยการถือเสนาสนะระงับ]


วินิจฉัยในเรื่องพระอุปนันทะ. ในคำว่า ตตฺถ ตยา โมฆปุริส
คหิตํ, อิธ มุกฺกํ, อิธ คหิตํ, ตตฺร มุกฺกํ
นี้ พึงทราบดังนี้ :-
เสนาสนะใดในกรุงสาวัตถีนั้น อันเธอถือเอาแล้ว เสนาสนะนั้น ย่อม
เป็นอันเธอผู้ถืออยู่นั่นแล สละเสียแล้วในคามกาวาสนี้.
อนึ่ง เมื่อเธอกล่าวอยู่ว่า ผู้มีอายุ บัดนี้เราสละเสนาสนะในคามกา-
วาสนี้ ดังนี้ เสนาสนะนั้น เป็นอันเธอสละแล้วแม้ในคามกาวาส นั้น ด้วย
ประการอย่างนี้ เธอเป็นคนภายนอก ในอาวาสทั้ง 2.
ส่วนวินิจฉัยในคำนี้ พึงทราบดังนี้ :-
การถือย่อมระงับเพราะการถือ. อาลัยย่อมระงับเพราะการถือ. การ
ถือย่อมระงับเพราะอาลัย. อาลัยย่อมระงับเพราะอาลัย.
อย่างไร ? ภิกษุบางรูปในศาสนานี้ ถือเสนาสนะในวัดหนึ่งแล้วไปสู่
วัดใกล้เคียง ถือเสนาสนะในวัดนั้นอีก ในวันเข้าพรรษา, การถือครั้งแรก
ของภิกษุนั้น ย่อมระงับเพราะการถือ (ครั้งหลัง) นี้.
ภิกษุอีกรูปหนึ่งกระทำเพียงอาลัยว่า เราจักอยู่ในวัดนี้ แล้วไปสู่วัด
ใกล้เคียง ถือเสนาสนะในวัคนั้นแล. อาลัยที่มีก่อนของภิกษุนั้น ย่อมระงับ
เพราะการถือนี้.
รูปหนึ่งถือเสนาสนะหรือทำอาลัยว่า เราจักอยู่ในที่นี้ แล้วไปสู่วัดใกล้
เคียง ถือเสนาสนะในวัดนั้น หรือทำอาลัยว่า บัดนี้ เราจักอยู่ในที่นี้แล ;
ด้วยประการอย่างนี้ การถือของเธอ ย่อมระงับ เพราะอาลัยบ้าง อาลัยของเธอ
ย่อมระงับเพราะอาลัยบ้าง.
ภิกษุย่อมตั้งอยู่ในการถือหรือในอาลัยครั้งหลัง ๆ ในที่ทั้งปวง.