เมนู

ภิกษุไม่พึงให้นวกรรม ด้วยเหตุเพียงติดสายยู
ภิกษุไม่พึงให้นวกรรม ด้วยเหตุเพียงติดกรอบเช็ดหน้า
ภิกษุไม่พึงให้นวกรรม ด้วยเหตุเพียงทาสีขาว
ภิกษุไม่พึงให้นวกรรม ด้วยเหตุเพียงทาสีดำ
ภิกษุไม่พึงให้นวกรรม ด้วยเหตุเพียงทาสีเหลือง
ภิกษุไม่พึงให้นวกรรม ด้วยเหตุเพียงมุงหลังคา
ภิกษุไม่พึงให้นวกรรม ด้วยเหตุเพียงผูกมัดหลังคา
ภิกษุไม่พึงให้นวกรรม ด้วยเหตุเพียงปิดบังที่อาศัยแห่งนกพิราบ
ภิกษุไม่พึงให้นวกรรม ด้วยเหตุเพียงปฏิสังขรณ์สิ่งชำรุดผุพัง
ภิกษุไม่พึงให้นวกรรม ด้วยเหตุเพียงขัดถู
ไม่พึงให้นวกรรม 20 ปี
ไม่พึงให้นวกรรม 30 ปี
ไม่พึงให้นวกรรม ตลอดชีวิต
ไม่พึงให้นวกรรมวิหารที่สร้างเสร็จแล้ว ยังอยู่ในเวลาแห่งควัน รูป
ใดให้นวกรรม ต้องอาบัติทุกกฏ.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้นวกรรมวิหารที่ยังไม่ได้ทำหรือที่
ทำค้างไว้เฉพาะวิหารเล็กไห้ตรวจดูงานแล้ว ให้นวกรรม 5-6 ปี เรือนมุง
แถบเดียว ให้ตรวจดูงานแล้ว ให้นวกรรม 7- 8 ปี วิหารใหญ่หรือปราสาท
ให้ตรวจดูงานแล้วให้นวกรรม 1- 2 ปี.

ให้นวกรรมวิหารทั้งหลัง


[296] สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายให้นวกรรม วิหารทั้งหลังจึงกราบทูล
เรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้า รับสั่งว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงให้นวกรรมวิหารทั้งหลัง รูปใดให้ ต้องอาบัติทุกกฏ.

[297] สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายให้นวกรรม 2 ครั้งแก่วิหาร 1 หลัง
จึงกราบทูลเรื่องนั้น แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้า รับสั่งว่า ดู
ก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงให้นวกรรม 2 ครั้ง แก่วิหาร 1 หลัง รูปใดให้
ต้องอาบัติทุกกฏ.
[298] สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายถือเอานวกรรมแล้วให้ภิกษุรูปอื่นอยู่
จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้า รับสั่งว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุถือเอานวกรรมแล้วไม่พึงให้ภิกษุรูปอื่นอยู่ รูปใดให้
อยู่ ต้องอาบัติทุกกฎ.
[299] สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายถือเอานวกรรมแล้วเกียดกันเสนาสนะ
ของสงฆ์ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้ารับ
สั่งว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุถือเอานวกรรมแล้วไม่พึงเกียดกันเสนาสนะ
ของสงฆ์ รูปใดเกียดกัน ต้องอาบัติทุกกฏ.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ถือที่นอนอย่างดีแห่งหนึ่ง.
[300] สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายให้นวกรรม แก่วิหารที่ตั้งอยู่นอกสีมา
จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้า รับสั่งว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงให้นวกรรม แก่วิหารที่ทั้งอยู่นอกสีมา รูปใด
ให้ ต้องอาบัติทุกกฏ.
[301] สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายถือเอานวกรรมแล้ว เกียดกันตลอด
กาลทั้งปวง จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้า
รับสั่งว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุถือเอานวกรรมแล้ว ไม่พึงเกียดกันตลอด
กาลทั้งปวง รูปใดเกียดกัน ต้องอาบัติทุกกฏ.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้เกียดกันเฉพาะ 3 เดือนฤดูฝน ไม่
ให้เกียดกันตลอดฤดูกาล.

ภิกษุถือเอานวกรรมแล้วหลีกไปเป็นต้น


[302] สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายถือเอานวกรรมแล้ว หลีกไปบ้าง สึก
เสียบ้าง ถึงมรณภาพบ้าง ปฏิญาณเป็นสามเณรบ้าง ปฏิญาณเป็นผู้บอกลา
สิกขาบ้าง ปฏิญาณเป็นผู้ต้องอันเติมวัตถุบ้าง ปฏิญาณเป็นผู้วิกลจริตบ้าง
ปฏิญาณเป็นผู้มีจิตฟุ้งซ่านบ้าง ปฏิญาณเป็นผู้กระสับกระส่ายเพราะเวทนาบ้าง
ปฏิญาณเป็นผู้ถูกยกวัตรฐานไม่เห็นอาบัติบ้าง ปฏิญาณเป็นผู้ถูกยกวัตรฐานไม่
กระทำคืออาบัติบ้าง ปฏิญาณเป็นผู้ถูกยกวัตรฐานไม่สละคืนทิฏฐิอันลามกบ้าง
ปฏิญาณเป็นบิณเฑาะก์บ้าง ปฏิญาณเป็นลักเพศบ้าง ปฏิญาณเป็นผู้เข้ารีตเดียรถีย์
บ้าง ปฏิญาณเป็นสัตว์ดิรัจฉานบ้าง ปฏิญาณเป็นผู้ฆ่ามารดาบ้าง ปฏิญาณ
เป็นผู้ฆ่าบิดาบ้าง ปฏิญาณเป็นผู้ฆ่าพระอรหันต์บ้าง ปฏิญาณเป็นผู้ประทุษ
ร้ายภิกษุณีบ้าง ปฏิญาณเป็นผู้ทำลายสงฆ์บ้าง ปฏิญาณเป็นผู้ทำโลหิตุปบาทบ้าง
ปฎิญาณเป็นอุภโทพยัญชนกบ้าง ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มี-
พระภาคเจ้า.
[303] พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุใน
ธรรมวินัยนี้ถือเอานวกรรมแล้ว หลีกไป สงฆ์พึงมอบให้แก่ภิกษุรูปอื่นด้วยสั่ง
ว่า อย่าให้ของสงฆ์เสียหาย.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ถือเอานวกรรมแล้ว
สึก ถึงมรณภาพ ปฏิญาณเป็นสามเณร ปฏิญาณเป็นผู้บอกลาสิกขา ปฏิญาณ
เป็นผู้ต้องอันทิมวัตถุ ปฏิญาณเป็นผู้วิกลจริต ปฏิญาณเป็นผู้มีจิตฟุ้งซ่าน
ปฏิญาณเป็นผู้กระสับกระส่ายเพราะเวทนา ปฏิญาณเป็นผู้ถูกยกวัตรฐานไม่เห็น
อาบัติ ปฏิญาณเป็นผู้ถูกยกวัตรฐานไม่กระทำคืนอาบัติ ปฏิญาณเป็นผู้ถูกยก
วัตรฐานไม่สละคืนทิฎฐิอันลามก ปฏิญาณเป็นบัณเฑาะก์ ปฏิญาณเป็นผู้ลักเพศ
ปฏิญาณเป็นผู้เข้ารีตเดียรถีย์ ปฏิญาณเป็นสัตว์ดิรัจฉาน ปฏิญาณเป็นผู้ฆ่า
มารดา ปฏิญาณเป็นผู้ฆ่าบิดา ปฏิญาณเป็นผู้ฆ่าพระอรหันต์ ปฏิญาณเป็นผู้