เมนู

[274] สมัยนั้น พระฉัพพัคคีย์พูดว่า พวกผมอาพาธ ลุกไม่ขึ้น
แล้วยึดเอาที่นอนดี ๆ ไว้... ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้น แด่พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้า . . . ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ที่นอนเหมาะสมแก่
ภิกษุอาพาธ.
[275] สมัยนั้น พระฉัพพัคคีย์อาพาธเล็กน้อย ก็หวงกันเสนาสนะ
ไว้. . . ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า... ตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุมีอาพาธเล็กน้อย ไม่พึงหวงกันเสนาสนะไว้ รูปใด
หวงกัน ต้องอาบัติทุกกฏ.

เรื่องพระสัตตรสวัคคีย์ซ่อมวิหาร


[276] สมัยนั้น พระสัตตรสวัคคีย์ซ่อมวิหารใหญ่หลังหนึ่งซึ่งตั้งอยู่
สุดเขต ด้วยหมายใจว่า พวกเราจักจำพรรษา ณ ที่นี้ พระฉัพพัคคีย์ได้เห็น
พระสัตตรสวัคคีย์กำลังซ่อมวิหาร ครั้นแล้วได้กล่าวอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลาย
พระสัตตรสวัคคีย์เหล่านี้ กำลังซ่อมวิหาร พวกเราจงช่วยกันไล่พวกเธอไปเสีย
เถิด ภิกษุบางพวกกล่าวกันอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรอไว้จนกว่าจะซ่อมเสร็จ
เมื่อซ่อมเสร็จแล้ว จึงค่อยไล่ไป ครั้นซ่อมเสร็จ พระฉัพพัคคีย์ได้กล่าวกะ
พระสัตตรสวัคคีย์ว่า ท่านทั้งหลาย พวกท่านจงออกไป วิหารถึงแก่พวกผม.
ส. ท่านทั้งหลาย ควรจะบอกไว้ก่อนมิใช่หรือ พวกผมจะได้ซ่อมที่อื่น.
ฉ. ท่านทั้งหลาย วิหารของสงฆ์มิใช่หรือ.
ส. ขอรับ วิหารของสงฆ์.
ฉ. ท่านทั้งหลาย พวกท่านจงออกไป วิหารถึงแก่พวกผม.
ส. ท่านทั้งหลาย วิหารใหญ่ แม้พวกท่านก็อยู่ได้ แม้พวกผมก็อยู่ได้.
ฉ. จงออกไป วิหารถึงแก่พวกผม แล้วทำเป็นโกรธ ขัดเคือง จับ

คอลากออกมา พระสัตตรสวัคคีย์เหล่านั้น ถูกพระฉัพพัคคีย์ฉุดคร่าออกมา ก็
ร้องให้ ภิกษุทั้งหลายถามว่า พวกท่านร้องให้ทำไม พระสัตตรสวัคคีย์ตอบว่า
ท่านทั้งหลาย พระฉัพพัคคีย์เหล่านี้ โกรธ ขัดเคือง ฉุดคร่าพวกผมออกจาก
วิหารของสงฆ์ บรรดาภิกษุที่เป็นผู้มักน้อย . . .ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพน
ทะนาว่า ไฉนพระฉัพพัคคีย์ จึงโกรธ ขัดเคือง ฉุดคร่าภิกษุทั้งหลายออก
จากวิหารของสงฆ์ จึงภิกษุเหล่านั้น กราบทูลเรื่องนั้น แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า...
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลายข่าวว่า ภิกษุฉัพพัคคีย์
โกรธ ชัดเคือง ฉุดคร่าภิกษุทั้งหลายออกจากวิหารของสงฆ์ จริงหรือ.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียน . . . ครั้นแล้วทรงทำธรรมีกถา
รับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงโกรธ ขัดเคือง
ฉุดคร่าภิกษุทั้งหลายออกจากวิหารของสงฆ์ รูปใดฉุดคร่า พึงปรับตามธรรม
เราอนุญาตให้ภิกษุถือเสนาสนะ.

ภิกษุควรได้รับสมมติเป็นผู้ให้เสนาสนะ


[277] ครั้งนั้น ภิกษุทั้งหลายหารือกันว่า ใครพึงให้ถือเสนาสนะ
แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า . . . ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เราอนุญาตให้สมมติภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 เป็นผู้ให้ถือเสนาสนะ คือ :-
1. ไม่ถึงความลำเอียงเพราะความชอบพอ
2. ไม่ถึงความลำเอียงเพราะความเกลียดชัง
3. ไม่ถึงความลำเอียงเพราะความงมงาย
4. ไม่ถึงความลำเอียงเพราะความกลัว และ
5. รู้เสนาสนะที่ให้ถือแล้วและยังไม่ให้ถือ.