เมนู

[270] หลังจากนั้น อนาถบิณฑิกคหบดีสั่งให้ตกแต่งขาทนียโภชนี-
ยาหารอันประณีต โดยล่วงราตรีนั้น แล้วสั่งให้คนไปกราบทูลภัตกาลแด่
พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ถึงเวลาแล้ว พระพุทธเจ้าข้า ภัตตาหารเสร็จแล้ว
ครั้นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงครองอันตรวาสก ทรงถือบาตรจีวรเสด็จ
เข้าสู่นิเวศน์ของอนาถบิณฑิกคหบดี ครั้นแล้วประทับนั่งบนอาสนะที่เขาจัด
ไว้ถวาย พร้อมกับภิกษุสงฆ์ จึงอนาถบิณฑิกคหบดี อังคาสภิกษุสงฆ์มี
พระพุทธเจ้าเป็นประมุขด้วยอาหารของเคี้ยวของฉันอันประณีตด้วยมือของตน
จนพระผู้มีพระภาคเจ้าเสวยเสร็จลดพระหัตถ์จากบาตรห้ามภัตแล้ว จึงนั่ง ณ
ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วได้กราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระพุทธเจ้าจะ
ปฏิบัติอย่างไรในพระเชตวันวิหาร พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า คหบดี ถ้าเช่นนั้น
เธอจงถวายพระเชตวันวิหารแก่สงฆ์จตุรทิศ ทั้งที่มาแล้วและยังไม่มา อนาถ-
บิณฑิกคหบดีรับสนองพระพุทธบัญชาแล้ว ได้ถวายพระเชตวันวิหารแก่สงฆ์
จตุรทิศ ทั้งที่มาแล้วและยังไม่มา.
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอนุโมทนาอนาถบิณฑิกคหบดี ด้วย
คาถาเหล่านี้ ว่าดังนี้ :-

คาถาอนุโมทนาวิหารทาน


[271] วิหารย่อมป้องกันหนาวร้อน
และเนื้อร้าย นอกจากนั้นป้องกันงูและยุง
ฝนในสิสิรฤดู นอกจากนั้น วิหารยังป้องกัน
ลมและแดดอันกล้าที่เกิดขึ้นได้ การถวาย
วิหารแก่สงฆ์เพื่อหลีกเร้นอยู่ เพื่อความสุข
เพื่อเพ่งพิจารณา และเพื่อเห็นแจ้ง พระ-

พุทธเจ้าทรงสรรเสริญว่า เป็นทานอันเลิศ
เพราะเหตุนั้นแล คนผู้ฉลาด เมื่อเล็งเห็น
ประโยชน์ตน พึงสร้างวิหารอันรื่นรมย์ ให้
ภิกษุทั้งหลายผู้พหูสูตอยู่ในวิหารเถิด อนึ่ง
พึงมีน้ำใจเลื่อมใส ถวายข้าว น้ำ ผ้า และ
เสนาสนะอันเหมาะสมแก่พวกเธอ ในพวก
เธอผู้ซื่อตรง เพราะพวกเธอย่อมแสดงธรรม
อันเป็นเครื่องบรรเทาสรรพทุกข์แก่เขา
อันเขารู้ทั่วถึงแล้วจะเป็นผู้ไม่มีอาสวะ
ปรินิพพานในโลกนี้.

ครั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอนุโมทนาอนาถบิณฑิกคหบดี ด้วย
พระคาถาเหล่านี้แล้ว เสด็จลุกจากอาสนะกลับไป.

เรื่องให้ภิกษุกำลังฉันค้างอยู่ลุกขึ้น


[272] สมัยนั้น มหาอำมาตย์ผู้หนึ่งเป็นสาวกของอาชีวกได้เลี้ยง
อาหารพระสงฆ์ ท่านพระอุปนันทศากยบุตรมาภายหลัง ได้ให้ภิกษุผู้นั่งใน
ลำดับลุกขึ้นทั้งที่กำลังฉันอาหารค้างอยู่ โรงอาหารได้เกิดโกลาหล จึงมหา
อำมาตย์ผู้นั้น เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนพระสมณะเชื้อสายพระ
ศากยบุตรมาทีหลัง จึงได้ให้ภิกษุผู้นั่งในลำดับลุกขึ้นทั้งที่ยังฉันอาหารค้างอยู่เล่า
โรงอาหารได้เกิดโกลาหลขึ้น ภิกษุผู้นั่งแม้ในที่อื่น จะพึงได้ฉันจนอิ่มอย่างไร
เล่า ภิกษุทั้งหลายได้ยินมหาอำมาตย์ผู้นั้น เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาอยู่
บรรดาที่เป็นผู้มักน้อย ... ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนท่าน
พระอุปนันทศากยบุตรมาทีหลังจงได้ให้ภิกษุผู้นั่งในลำดับลุกขึ้น ทั้งที่ยังฉัน