เมนู

เรื่องภิกษุตัดองค์กำเนิด


[28] สมัยต่อมา ภิกษุรูปหนึ่งถูกความกระสันเบียดเบียน ได้ตัดองค์
กำเนิดของตนเสีย ภิกษุทั้งหลาย กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้า . . . ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โมฆบุรุษ เมื่อ
สิ่งที่จะพึงตัดอย่างอื่นยังมี ไพล่ไปตัดเสียอีกอย่าง ภิกษุไม่พึงตัดองค์กำเนิด
ของคน รูปใดตัด ต้องอาบัติถุลลัจจัย.

เรื่องบาตรปุ่มไม้จันทน์


[29] สมัยต่อมา ปุ่มไม้แก่นจันทน์มีราคามาก ได้บังเกิดแก่เศรษฐี
ชาวเมืองราชคฤห์ จึงราชคหเศรษฐีได้คิดว่า ถ้ากระไรเราจะให้กลึงบาตรด้วย
ปุ่มไม้แก่นจันทน์นี้ ส่วนที่กลึงเหลือเราจักเก็บไว้ใช้ และเราจักให้บาตรเป็น
ทาน หลังจากนั้น ท่านราชคหเศรษฐีให้กลึงบาตรด้วยปุ่มไม้แก่นจันทน์นั้น
แล้วใส่สาแหรกแขวนไว้ที่ปลายไม้ไผ่ผูกต่อ ๆ กันขึ้นไป แล้วกล่าวอย่างนี้ว่า
สมณะหรือพราหมณ์ผู้ใด เป็นพระอรหันต์และมีฤทธิ์ จงปลดบาตรที่เราให้
แล้วไปเถิด.
[30] ขณะนั้น ปูรณกัสสปเข้าไปหาท่านราชคหเศรษฐีแล้ว กล่าวว่า
ท่านคหบดี อาตมานี้แหละเป็นพระอรหันต์และมีฤทธิ์ ขอท่านจงให้บาตรแก่
อาตมาเถิด ท่านเศรษฐีตอบว่า ท่านเจ้าข้า ถ้าพระคุณเจ้าเป็นพระอรหันต์
และมีฤทธิ์ ก็จงปลดบาตรที่ข้าพเจ้าให้แล้วนั่นแลไปเถิด
ต่อมา ท่านมักขลิโคสาล ท่านอชิตเกสกัมพล ท่านปกุธกัจจายนะ
ท่านสัญชัยเวลัฏฐบุตร ท่านนิครนถ์นาฎบุตร ได้เข้าไปหาท่านเราชคหเศรษฐี
แล้วกล่าวว่า ท่านคหบดี อาตมานี้แหละเป็นพระอรหันต์ และมีฤทธิ์ ขอท่าน

จงให้บาตรแก่อาตมาเถิด ท่านเศรษฐีตอบว่า ท่านเจ้าข้า ถ้าพระคุณเจ้าเป็น
พระอรหันต์และมีฤทธิ์ ก็จงปลดบาตรที่ข้าพเจ้าให้แล้วนั่นแลไปเถิด.

เรื่องพระปิณโฑลภารทวาชเถระ


[31] สมัยต่อมา ท่านพระมหาโมคคัลลานะกับท่านพระปิณโฑลภาร
ทวาชะ ครองอัตรวาสกในเวลาเช้าแล้ว ถือบาตรจีวร เข้าไปบิณฑบาตในเมือง
ราชคฤห์ อันที่แท้ ท่านพระปิณโฑลภารทวาชะ เป็นอรหันต์และมีฤทธิ์
แม้ท่านพระมหาโมคคัลลานะก็เป็นพระอรหันต์และมีฤทธิ์ จึงท่านพระปิณโฑล-
ภารทวาชะ ไค้กล่าวกะท่านพระมหาโมคคัลลานะว่า ไปเถิด ท่านโมคคัลลานะ
จงปลดบาตรนั้นลง บาตรนั้น ของท่าน แม้ท่านพระโมคัคลลานะก็กล่าวกะท่าน
พระปิณโฑลภารทวาชะว่า ไปเถิด ท่านภารทวาชะ จงปลดบาตรนั้นลง บาตร
นั้นของท่าน จึงท่านพระปิณโฑลภารทวาชะเหาะขึ้นสู่เวหาส ถือบาตรนั้นเวียน
ไปรอบเมืองราชคฤห์ 3 รอบ.
[32] ครั้งนั้น ท่านราชคหเศรษฐีพร้อมกับบุตรภรรยา ยืนอยู่ใน
เรือนของตน ประคองอัญชลีนมัสการ กล่าวนิมนต์ว่า ท่านเจ้าข้า ขอพระคุณ
เจ้าภารทวาชะ จงประดิษฐานในเรือนของข้าพเจ้านี้เถิด จึงท่านพระปิณโฑล-
ภารทวาชะ ประดิษฐานในเรือนของท่านราชคหเศรษฐี ขณะนั้น ท่านราช-
คหเศรษฐีรับบาตรจากมือของท่านพระปิณโฑลภารทวาชะ แล้วได้จัดของเคี้ยว
มีค่ามาก ถวายท่านพระปิณโฑลภารทวาชะ ท่านพระปิณโฑลภารทวาชะได้รับ
บาตรนั้นไปสู่พระอาราม ชาวบ้านได้ทราบข่าวว่า ท่านพระปิณโฑลภารทวาชะ
ปลดบาตรของราชคหเศรษฐีไปแล้ว และชาวบ้านเหล่านั้นมีเสียงอึกทึกเกรียว-
กราว ติดตามพระปิณโฑลภารทวาชะไปข้างหลัง ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรง
สดับเสียงอึกทึกเกรียวกราว ครั้นแล้วตรัสถามพระอานนท์ว่า อานนท์ นั่นเสียง