เมนู

วิธีขอขมาของพระสุธรรม


[165] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุสุธรรมนั้นพึงไปเมืองมัจฉิกา-
สณฑ์กับภิกษุอนุทูต แล้วขอขมาจิตตคหบดีว่า คหบดีขอท่านจงอดโทษ
อาตมาจะให้ท่านเลื่อมใส ถ้าเมื่อกล่าวอย่างนี้ เขาอดโทษ ข้อนั้นเป็นการ
ดีหากเขาไม่อดโทษ ภิกษุอนุทูตพึงช่วยพูดว่า คหบดี ขอท่านจงอดโทษ
แก่ภิกษุนี้ ภิกษุนี้จะให้ท่านเลื่อมใส ถ้าเมื่อกล่าวอย่างนี้ เขาอดโทษ ข้อ
นั้นเป็นการดี หากเขาไม่อดโทษ ภิกษุอนุทูตพึงช่วยพูดว่า คหบดี ขอ
ท่านจงอดโทษแก่ภิกษุนี้ อาตมาจะให้ท่านเลื่อมใส ถ้าเมื่อกล่าวอย่างนี้
เขาอดโทษ ข้อนั้นเป็นการดี หากเขาไม่อดโทษ ภิกษุอนุทูตพึงช่วยพูด
ว่าคหบดี ขอท่านจงอดโทษแก่ภิกษุนี้ตามคำสั่งของสงฆ์ ถ้าเมื่อกล่าว
อย่างนี้เขาอดโทษ ข้อนั้นเป็นการดี หากเขาไม่อดโทษ ภิกษุอนุทูตพึง
ให้ภิกษุสุธรรมห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า นั่งกระโหย่งประคองอัญชลี แล้ว
ให้แสดงอาบัตินั้น ไม่ละทัสสนูปจาร ไม่ละสวนูปจาร.

ขอขมาสำเร็จ และสงฆ์ระงับกรรม


[166] ครั้งนั้น ท่านพระสุธรรมไปเมืองมัจฉิกาสณฑ์กับภิกษุ
อนุทูต แล้วขอขมาจิตตคหบดี ท่านพระสุธรรมนั้นประพฤติโดยชอบ
หายเย่อหยิ่ง ประพฤติแก้ตัวได้ จึงเข้าไปหาภิกษุทั้งหลายแล้วกล่าวอย่างนี้
ว่า อาวุโสทั้งหลาย ผมถูกสงฆ์ลงปฏิสารณียกรรมแล้ว ได้ประพฤติโดย
ชอบ หายเย่อหยิ่ง ประพฤติแก้ตัวได้ ผมจะพึงปฏิบัติอย่างไรต่อไป
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า:-

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าเช่นนั้น สงฆ์จงระงับปฏิสารณียกรรมแก่
ภิกษุสุธรรม .

วัตรที่ไม่ควรระงับ 18 ข้อ 3 หมวด


หมวดที่ 1


[167] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยองค์ 5 สงฆ์ไม่
พึงระงับปฏิสารณียกรรม คือ :-
1. ให้อุปสมบท
2. ให้นิสัย
3. ให้สามเณรอุปัฏฐาก
4. รับสมมติเป็นผู้สั่งสอนภิกษุณี
5. แม้ได้รับสมมติแล้วก็สั่งสอนภิกษุณี
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยองค์ 5 นี้แล สงฆ์ไม่พึง
ระงับปฏิสารณียกรรม.

หมวดที่ 2


[168] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยองค์ 5 แม้อื่นอีก
สงฆ์ไม่พึงระงับปฏิสารณียกรรม คือ :-
1. สงฆ์ลงปฏิสารณียกรรม เพราะอาบัติใด ต้องอาบัตินั้น
2. ต้องอาบัติอื่นอันเช่นกัน
3. ต้องอาบัติอันเลวทรามกว่านั้น