เมนู

จิ. ท่านเจ้าข้า ข้าพเจ้ามิได้ด่า มิได้บริภาษพระคุณเจ้าสุธรรม ขอ
อาราธนาพระคุณเจ้าสุธรรม จงอยู่ในวิหารอัมพาฏกวัน อันเป็นสถานรื่น
รมย์ เขตเมืองมัจฉิกาสณฑ์ ข้าพเจ้าจักทำการขวนขวาย จีวร บิณฑบาต
เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร แก่พระคุณเจ้าสุธรรม.
ท่านพระสุธรรม ได้กล่าวคำนี้แก่จิตตคหบดีเป็นคำรบสามว่า คหบดี
ท่านด่าอาตมา คหบดี ท่านบริภาษอาตมา คหบดี นั่นอาวาสของท่าน
อาตมาจักหลีกไปจากอาวาสนั้น .
จิ. พระคุณเจ้าสุธรรมจักไปที่ไหน เจ้าข้า.
สุ. คหบดี อาตมาจักไปพระนครสาวัตถี เพื่อเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า
จิ. ท่านเจ้าข้า ถ้าเช่นนั้น ถ้อยคำอันใดที่พระคุณเจ้าได้กล่าวแล้ว
และถ้อยคำอันใดที่ข้าพเจ้าได้กล่าวแล้ว ขอท่านจงกราบทูลถ้อยคำอันนั้น
ทั้งมวลแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า แต่ข้อที่พระคุณเจ้าสุธรรมจะพึงกลับมาเมือง
มัจฉิกาสณฑ์อีกนั้น ไม่อัศจรรย์เลย เจ้าข้า.

พระสุธรรมเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า


[133] ครั้งนั้น ท่านพระสุธรรมเก็บเสนาสนะแล้ว ถือบาตรจีวร
เดินไปทางพระนครสาวัตถี ถึงพระนครสาวัตถี พระเชตวันอารามของ
อนาถบิณฑิกคหบดี โดยลำดับ เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วถวายบังคม
นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วกราบทูลถ้อยคำที่คนกับคหบดีโต้ตอบ
กัน ให้พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบทุกประการ.

ทรงติเตียน


[134] พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนโมฆบุรุษ
การกระทำของเธอนั้น ไม่เหมาะ ไม่สม ไม่ควร มิใช่กิจของสมณะ ใช้
ไม่ได้ ไม่ควรทำ จิตตคหบดีผู้มีศรัทธาเลื่อมใส เป็นทายก กัปปิยการก
บำรุงสงฆ์ ไฉนเธอจึงได้พูดกด พูดข่ม ด้วยถ้อยคำอันเลวเล่า ดูก่อน
โมฆบุรุษ การกระทำของเธอนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชน
ที่ยังไม่เลื่อมใส....ครั้นแล้วทรงทำธรรมีกถารับสั่งกะพระภิกษุทั้งหลายว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าเช่นนั้น สงฆ์จงทำปฏิสารณียกรรมแก่ภิกษุสุธรรม
คือ ให้เธอขอขมาจิตตคหบดี.

วิธีทำปฏิสารณียกรรม


ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แล วิธีทำปฏิสารณียกรรมพึงทำอย่างนี้ พึง
โจทภิกษุสุธรรมก่อน ครั้นแล้วพึงให้เธอให้การ แล้วพึงปรับอาบัติ ครั้น
แล้วภิกษุ ผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติจตุตถ-
กรรมวาจา ว่าดังนี้ :-

กรรมวาจาทำปฏิสารณียกรรม


ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุสุธรรมนี้
พูดกด พูดข่ม จิตตคหบดี ผู้มีศรัทธาเลื่อมใส เป็นทายก
กัปปิยการก ผู้บำรุงสงฆ์ ด้วยถ้อยคำอันเลว ถ้าความ