เมนู

ปฏิญาณหรือ เอาเถิด ท่านจงรู้ด้วยดี ถ้าท่านระลึกได้ว่าต้องครุกาบัติ
เห็นปานนี้ คือ อาบัติปาราชิก หรืออาบัติที่ใกล้ปาราชิก
ภิกษุจำเลยนั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ท่าน ข้าพเจ้าระลึกได้ว่า ต้อง
ครุกาบัติเห็นปานนี้ คือ อาบัติปาราชิก หรืออาบัติที่ใกล้ปาราชิก คำ
นั้นข้าพเจ้าพูดเล่น คำนั้นข้าพเจ้าพูดพล่อยไป ข้าพเจ้าระลึกไม่ได้ว่า
ต้องครุกาบัติเห็นปานนี้ คือ อาบัติปาราชิก หรืออาบัติที่ใกล้ปาราชิก
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงทำตัสสปาปิยสิกากรรมนั่นแก่ภิกษุ
นั้นแล.

วิธีทำตัสสปาปิยสิกากรรม


[688] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แล สงฆ์พึงทำตัสสปาปิยสิกากรรม
อย่างนี้ ภิกษุผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติ
จตุตถกรรมวาจา ว่าดังนี้ :-

กรรมวาจาทำตัสสปาปิยสิกา


ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุมีชื่อนี้
รูปนี้ ถูกซักถามถึงครุกาบัติในท่ามกลางสงฆ์ ปฏิเสธ
แล้วปฏิญาณ ปฏิญาณแล้วปฏิเสธ ให้การกลับไปกลับมา
กล่าวเท็จทั้งที่รู้ ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว
สงฆ์พึงทำตัสสปาปิยสิกากรรม แก่ภิกษุมีชื่อนี้ นี้เป็น
ญัตติ

ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุมีชื่อนี้
รูปนี้ ถูกซักถามถึงครุกาบัติในท่ามกลางสงฆ์ ปฏิเสธ
แล้วปฏิญาณ ปฏิญาณแล้วปฏิเสธ ให้การกลับไปกลับมา
กล่าวเท็จทั้งที่รู้ สงฆ์ทำตัสสปาปิยสิกากรรมแก่ภิกษุมีชื่อนี้
การทำตัสสปาปิยสิกากรรมแก่ภิกษุมีชื่อนี้ ชอบแก่ท่านผู้
ใด ท่านผู้นั้นพึงเป็นผู้นิ่ง ไม่ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่าน
ผู้นั้นพึงพูด
ข้าพเจ้ากล่าวความนี้ แม้ครั้งที่สอง...
ข้าพเจ้ากล่าวความนี้ แม้ครั้งที่สาม....
ตัสสปาปิยสิกากรรม อันสงฆ์ทำแล้วแก่ภิกษุมีชื่อ
นี้ ชอบแก่สงฆ์ เหตุนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้าทรงความนี้ไว้
อย่างนี้

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าอธิกรณ์ระงับแล้ว ระงับด้วยอะไร ?
ด้วยสัมมุขาวินัยกับตัสสปาปิยสิกา ในสัมมุขาวินัยนั้นมีอะไรบ้าง ? มีความ
พร้อมหน้าสงฆ์ ความพร้อมหน้าธรรม ความพร้อมหน้าวินัย ความ
พร้อมหน้าบุคคล....
ในตัสสปาปิยสิกานั้นมีอะไรบ้าง ? มีกิริยา ความกระทำ ความ
เข้าไป ความเข้าไปเฉพาะ ความรับรอง ความไม่คัดค้านกรรม คือ
ตัสสปาปิยสิกาอันใด นี้มีในตัสสปาปิยสิกานั้น
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หากอธิกรณ์ระงับแล้วอย่างนี้ ผู้ทำรื้อฟื้น
เป็นปาจิตตีย์ที่รื้อฟื้น ผู้ให้ฉันทะติเตียน เป็นปาจิตติย์ที่ติเตียน

อาปัตตาธิกรณ์ระงับด้วยสมถะ 3 อย่าง


[689] อาปัตตาธิกรณ์ ระงับด้วยสมณะเท่าไร ? อาปัตตาธิกรณ์
ระงับด้วยสมถะ 3 อย่าง คือ สัมมุขาวินัย 1 ปฎิญาณตกรณะ 1 ติณวัต
ถารกะ 1.
[690] บางที อาปัตตาธิกรณ์ ไม่อาศัยสมถะอย่างหนึ่ง คือ
ติณวัตถารกะพึงระงับด้วยสมถะ 2 อย่าง คือ สัมมุขาวินัย 1 ปฏิญญาต
กรณะ 1 บางทีพึงตกลงกันได้ สมจริงดังที่ตรัสไว้ว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องลหุกาบัติแล้วเธอ
พึงเข้าไปหาภิกษุรูปหนึ่งห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า นั่งกระโหย่ง ประคอง
อัญชลี แล้วกล่าวอย่างนี้ว่า ท่าน ผมต้องอาบัติชื่อนี้ ผมแสดงคืน
อาบัตินั้น
ภิกษุผู้รับนั้นพึงกล่าวว่า ท่านเห็นหรือ
ภิกษุผู้แสดงนั้นพึงกล่าวว่า ขอรับ ผมเห็น
ภิกษุผู้รับนั้นพึงกล่าวว่า ท่านพึงสำรวมต่อไป
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าอธิกรณ์ระงับแล้ว ระงับด้วยอะไร ?
ด้วยสัมมุขาวินัยกับปฏิญญาตกรณะ ในสัมมุขาวินัยมีอะไรบ้าง ? มีความ
พร้อมหน้าธรรม ความพร้อมหน้าวินัย ความพร้อมหน้าบุคคล....
ก็ความพร้อมหน้าบุคคล ในสัมมุขาวินัยนั้นอย่างไร ? คือผู้แสดงกับ
ผู้รับแสดง ทั้งสองอยู่พร้อมหน้ากัน นี้ชื่อว่า ความพร้อมหน้าบุคคล
ในสัมมุขาวินัยนั้น