เมนู

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุในธรรมวินัยนี้ วิกลจริต มีจิต
แปรปรวน ได้ประพฤติละเมิดกิจอันไม่ควรแก่สมณะเป็นอันมาก ทั้งที่
กล่าวด้วยวาจาและพยายามทำด้วยกาย ภิกษุทั้งหลายย่อมโจทเธอด้วยอาบัติ
ที่เธอวิกลจริต มีจิตแปรปรวน ประพฤติละเมิดต้องแล้วว่า ท่านต้อง
อาบัติแล้ว จงระลึกอาบัติเห็นปานนี้ เธอกล่าวอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลาย
ข้าพเจ้าวิกลจริต มีจิตแปรปรวน ได้ประพฤติละเมิดกิจอันไม่ควรแก่
สมณะเป็นอันมาก ทั้งที่กล่าวด้วยวาจาและพยายามทำด้วยกาย ข้าพเจ้า
ระลึกอาบัตินั้นไม่ได้ ข้าพเจ้าหลงได้ทำสิ่งนี้แล้ว ภิกษุทั้งหลายผู้อันเธอ
กล่าวอยู่แม้อย่างนั้น ก็ยังโจทเธออยู่ตามเดิมว่า ท่านต้องอาบัติแล้ว จง
ระลึกอาบัติเห็นปานนี้
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้อมูฬหวินัยแก่ภิกษุนั้น ผู้หายหลง
แล้ว ก็แล สงฆ์พึงให้อมูฬหวินัยอย่างนี้ ภิกษุนั้นพึงเข้าไปหาสงฆ์
ห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า ไหว้เท้าภิกษุผู้แก่กว่า นั่งกระโหย่งประคอง
อัญชลี แล้วกล่าวคำขอ ว่าดังนี้:-

คำขออมูฬหวินัย


ท่านเจ้าข้า ข้าพเจ้าวิกลจริต มีจิตแปรปรวน
ได้ประพฤติละเมิดกิจอันไม่ควรแก่สมณะเป็นอันมาก ทั้ง
ที่กล่าวด้วยวาจาและพยายามทำด้วยกาย ภิกษุทั้งหลาย
โจทข้าพเจ้า ด้วยอาบัติที่ข้าพเจ้าวิกลจริต มีจิตแปรปรวน
ประพฤติละเมิดต้องแล้วว่า ท่านต้องอาบัติแล้ว จงระลึก

อาบัติเห็นปานนี้ ข้าพเจ้ากล่าวกะภิกษุพวกนั้นอย่างนี้ว่า
ท่านทั้งหลาย ข้าพเจ้าวิกลจริต มีจิตแปรปรวน ได้
ประพฤติละเมิดกิจอันไม่ควรแก่สมณะเป็นอันมาก ทั้งที่
กล่าวด้วยวาจาและพยายามทำด้วยกาย ข้าพเจ้าระลึก
อาบัตินั้นไม่ได้ ข้าพเจ้าหลงได้ทำสิ่งนี้แล้ว ภิกษุทั้ง
หลายผู้อันข้าพเจ้ากล่าวอยู่แม้อย่างนั้น ก็ยังโจทข้าพเจ้า
อยู่ตามเดิมว่า ท่านต้องอาบัติแล้ว ระลึกอาบัติเห็น
ปานนี้ ท่านเจ้าข้า ข้าพเจ้านั้นหายหลงแล้ว ขออมูฬห-
วินัยกะสงฆ์
พึงขอแม้ครั้งที่สอง พึงขอแม้ครั้งที่สาม.

[686] ภิกษุผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบ
ด้วยญัตติจตุตถกรรมกรรมวาจาว่า ดังนี้:-

กรรมวาจาให้อมูฬหวินัย


ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุมีชื่อนี้
รูปนี้ วิกลจริต มีจิตแปรปรวน ได้ประพฤติละเมิดกิจ
อันไม่ควรแก่สมณะเป็นอันมาก ทั้งที่กล่าวด้วยวาจาและ
พยายามทำด้วยกาย ภิกษุทั้งหลายโจทเธอด้วยอาบัติที่เธอ
วิกลจริต มีจิตแปรปรวน ได้ประพฤติละเมิดต้องแล้วว่า
ท่านต้องอาบัติแล้ว จงระลึกอาบัติเห็นปานนี้ เธอกล่าว