เมนู

11. ไม่พึงห้ามอุโบสถแก่ปกตัตตะภิกษุ
12. ไม่พึงห้ามปวารณาแก่ปกตัตตะภิกษุ
13. ไม่พึงทำการไต่สวน
14. ไม่พึงเริ่มอนุวาทาธิกรณ์
15. ไม่พึงให้ภิกษุอื่นทำโอกาส
16. ไม่พึงโจทภิกษุอื่น
17. ไม่พึงให้ภิกษุอื่นให้การ
18. ไม่พึงช่วยภิกษุกับภิกษุให้สู้กันในอธิกรณ์
คราวนั้น สงฆ์ได้ทำตัสสปาปิยสิกากรรมแก่พระอุปวาฬแล้ว

ภิกษุก่อการวุ่นวาย


[625] สมัยนั้นแล ภิกษุทั้งหลายเกิดความบาดหมาง เกิดความ
ทะเลาะ ถึงความวิวาทอยู่ ได้ประพฤติละเมิดกิจอันไม่ควรแก่สมณะเป็น
อันมาก ทั้งที่กล่าวด้วยวาจา และพยายามทำด้วยกาย ครั้งนั้น พวก
เธอคิดว่า พวกเราเกิดความบาดหมาง เกิดความทะเลาะ ถึงความวิวาท
อยู่ ได้ประพฤติละเมิดกิจอันไม่ควรแก่สมณะเป็นอันมาก ทั้งที่กล่าว
ด้วยวาจาและพยายามทำด้วยกาย ถ้าพวกเราจักปรับกันด้วยอาบัติเหล่านี้
บางทีอธิกรณ์นั้น จะพึงเป็นไปเพื่อความรุนแรง เพื่อความร้ายกาจ
เพื่อความแตกกันก็ได้ พวกเราจะพึงปฏิบัติอย่างไรหนอ แล้วกราบทูล
เรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า

พุทธานุญาตให้ระงับอธิกรณ์ด้วยติณวัตถารกะ


พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งกะภิกษุทั้งหลาย ว่าดังนี้ :-
[626] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็พวกภิกษุในธรรมวินัยนี้ เกิด
ความบาดหมาง เกิดความทะเลาะ ถึงความวิวาทอยู่ ได้ประพฤติละเมิด
กิจอันไม่ควรแก่สมณะเป็นอันมาก ทั้งที่กล่าวด้วยวาจาและพยายามทำด้วย
กาย ถ้าพวกเธอในหมู่นั้นคิดอย่างนี้ว่า พวกเราเกิดความบาดหมาง
เกิดความทะเลาะ ถึงความวิวาทอยู่ ได้ประพฤติละเมิดกิจอันไม่ควรแก่
สมณะเป็นอันมาก ทั้งที่กล่าวด้วยวาจาและพยายามทำด้วยกาย ถ้าพวก
เราจักปรับกันด้วยอาบัติเหล่านี้ บางทีอธิกรณ์นั้นจะพึงเป็นไปเพื่อความ
รุนแรง เพื่อความร้ายกาจ เพื่อความแตกกันก็ได้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เราอนุญาตให้ระงับอธิกรณ์เห็นปานั้น ด้วยติณวัตถารกะ.....

วิธีระงับ


[627] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แล สงฆ์พึงระงับอย่างนี้
ภิกษุทุก ๆ รูปพึงประชุมในที่แห่งเดียวกัน ครั้นแล้วภิกษุผู้ฉลาด
ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติกรรมวาจา ว่าดังนี้:-

ญัตติกรรมวาจาระงับอธิกรณ์ด้วยติณวัตถารกะ


ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า พวกเราเกิด
ความบาดหมาง เกิดความทะเลาะ ถึงความวิวาทอยู่
ได้ประพฤติละเมิดกิจอันไม่สมควรแก่สมณะเป็นอันมาก