เมนู

ทำตามปฏิภาณเป็นธรรม


[610] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การทำตามปฏิญาณเป็นธรรม
อย่างไร?
ภิกษุต้องอาบัติปาราชิก สงฆ์ หรือภิกษุ 2-3 รูป หรือภิกษุ
รูปเดียว โจทเธอว่า ท่านต้องอาบัติปาราชิก เธอกล่าวอย่างนี้ว่า ถูกละ
ท่าน ข้าพเจ้าต้องอาบัติปาราชิก สงฆ์ปรับเธอด้วยอาบัติปาราชิก การ
ปรับอย่างนี้ ชื่อว่าทำตามปฏิญาณเป็นธรรม
ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสส....
ภิกษุต้องอาบัติถุลลัจจัย....
ภิกษุต้องอาบัติปาจิตตีย์......
ภิกษุต้องอาบัติปาฏิเทสนียะ....
ภิกษุต้องอาบัติทุกกฏ....
ภิกษุต้องอาบัติทุพภาสิต สงฆ์ หรือภิกษุ 2-3 รูป หรือภิกษุ
รูปเดียว โจทเธอว่า ท่านต้องอาบัติทุพภาสิต เธอกล่าวอย่างนี้ว่า
ถูกละท่าน ข้าพเจ้าต้องอาบัติทุพภาสิต สงฆ์ปรับเธอด้วยอาบัติทุพภาสิต
การปรับ อย่างนี้ ชื่อว่าทำตามปฏิญาณเป็นธรรม
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล ทำตามปฏิญาณเป็นธรรม.

ระงับอธิกรณ์ด้วยเยภุยยสิกา


[611] สมัยนั้นแล ภิกษุทั้งหลายก่อความบาดหมาง ก่อความ
ทะเลาะถึงความวิวาทกัน ในท่ามกลางสงฆ์ กล่าวทิ่มแทงกันและกันด้วย
หอกคือปากอยู่ ไม่อาจเพื่อระงับอธิกรณ์นั้นได้ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่

พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้
ระงับอธิกรณ์เห็นปานนี้ด้วยเยภุยยสิกา พึงสมมติภิกษุผู้ประกอบด้วย
องค์ 5 ให้เป็นผู้จับฉลาก คือ:-
1. ไม่ถึงความลำเอียงเพราะความชอบพอ
2. ไม่ถึงความลำเอียงเพราะความเกลียดชัง
3. ไม่ถึงความลำเอียงเพราะความงมงาย
4. ไม่ถึงความลำเอียงเพราะความกลัว และ
5. รู้จักฉลากที่จับแล้วและยังไม่จับ
ก็แล สงฆ์พึงสมมติอย่างนี้ พึงขอร้องภิกษุก่อน ครั้นแล้วภิกษุ
ผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติทุติยกรรมวาจา
ว่าดังนี้ :-

กรรมวาจาสมมติ


ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ถ้าความพร้อม
พรั่งของสงฆ์ ถึงที่แล้ว สงฆ์พึงสมมติภิกษุมีชื่อนี้ให้เป็น
ผู้ให้จับฉลาก นี้เป็นญัตติ
ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า สงฆ์สมมติ
ภิกษุมีชื่อนี้ให้เป็นผู้ให้จับฉลาก การสมมติภิกษุมีชื่อนี้ให้
เป็นผู้ให้จับฉลาก ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงเป็นผู้
นิ่ง ไม่ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงพูด