เมนู

ปรวน ได้ประพฤติละเมิดกิจอันไม่ควรแก่สมณะเป็นอัน
มาก ทั้งที่กล่าวด้วยวาจาและพยายามทำด้วยกาย ข้าพเจ้า
ระลึกอาบัติไม่ได้ ข้าพเจ้าหลงได้ทำสิ่งนี้แล้ว ภิกษุทั้ง-
หลายผู้อันข้าพเจ้ากล่าวอยู่แม้อย่างนี้ ก็ยังโจทข้าพเจ้าอยู่
ตามเดิมว่า ท่านต้องอาบัติแล้วจงระลึกอาบัติเห็นปานนี้
ท่านเจ้าข้า ข้าพเจ้านั้นหายวิกลจริตแล้ว ขออมูฬหวินัย
กะสงฆ์ แม้ครั้งที่สาม.

[601] ภิกษุผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทรามด้วย
ญัตติจตุตถกรรมวาจา ว่าดังนี้:-

กรรมวาจาให้อมูฬหวินัย


ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า คัคคะภิกษุนี้
วิกลจริตมีจิตแปรปรวน เธอวิกลจริต มีจิตแปรปรวน
ได้ประพฤติละเมิดกิจอันไม่ควรแก่สมณะเป็นอันมาก ทั้ง
ที่กล่าวด้วยวาจาและพยายามทำด้วยกาย ภิกษุทั้งหลาย
โจทคัคคะภิกษุด้วยอาบัติที่เธอวิกลจริต มีจิตแปรปรวน
ประพฤติละเมิดต้องแล้วว่า ท่านต้องอาบัติแล้ว จงระลึก
อาบัติเห็นปานนี้ เธอกล่าวอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลาย
ข้าพเจ้าวิกลจริต มีจิตแปรปรวนเสียแล้ว ข้าพเจ้านั้น
วิกลจริต มีจิตแปรปรวน ได้ประพฤติละเมิดกิจอันไม่
ควรแก่สมณะเป็นอันมาก ทั้งที่กล่าวด้วยวาจาและพยา-
ยามทำด้วยกาย ข้าพเจ้าระลึกอาบัตินั้นไม่ได้ ข้าพเจ้า

หลง ได้ทำสิ่งนี้แล้ว ภิกษุทั้งหลายผู้อันเธอกล่าวอยู่
แม้อย่างนั้น ก็ยังโจทเธออยู่ตามเดิมว่า ท่านต้องอาบัติ
แล้ว จงระลึกอาบัติเห็นปานนี้ เธอหายวิกลจริตแล้ว
ขออมูฬหวินัยกะสงฆ์ ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่
แล้ว สงฆ์พึงให้อมูฬหวินัยแก่คัคคะภิกษุผู้หายวิกลจริต
แล้ว นี้เป็นญัตติ
ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า คัคคะภิกษุนี้
วิกลจริตมีจิตแปรปรวน เธอวิกลจริต มีจิตแปรปรวน
ได้ประพฤติละเมิดกิจอันไม่ควรแก่สมณะเป็นอันมาก ทั้ง
ที่กล่าวด้วยวาจาและพยายามทำด้วยกาย ภิกษุทั้งหลาย
โจทคัคคะภิกษุด้วยอาบัติที่เธอวิกลจริต มีจิตแปรปรวน
ประพฤติละเมิดต้องแล้วว่า ท่านต้องอาบัติแล้ว จงระลึก
อาบัติเห็นปานนี้เธอกล่าวอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลาย ข้าพเจ้า
วิกลจริตมีจิตแปรปรวนเสียแล้ว ข้าพเจ้านั้นวิกลจริต
มีจิตแปรปรวน ได้ประพฤติละเมิดกิจอันไม่ควรแก่สมณะ
เป็นอันมาก ทั้งที่กล่าวด้วยวาจาและพยายามทำด้วยกาย
ข้าพเจ้าระลึกอาบัตินั้นไม่ได้ ข้าพเจ้าหลงได้ทำสิ่งนี้แล้ว
ภิกษุทั้งหลายผู้อันเธอกล่าวอยู่แม้อย่างนั้น ก็ยังโจทเธอ
อยู่ตามเดิมว่าท่านต้องอาบัติแล้ว จงระลึกอาบัติเห็นปาน
นี้ เธอหายวิกลจริตแล้ว ขออมูฬหวินัยกะสงฆ์ สงฆ์
ให้อมูฬหวินัยแก่คัคคะภิกษุผู้หายวิกลจริตแล้ว การให้

อมูฬหวินัยแก่คัคคะภิกษุผู้หายวิกลจริตแล้ว ชอบแก่ท่าน
ผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงเป็นผู้นิ่งไม่ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่าน
ผู้นั้นพึงพูด
ข้าพเจ้ากล่าวความนี้ แม้ครั้งที่สอง....
ข้าพเจ้ากล่าวความนี้ แม้ครั้งที่สาม....
อมูฬหวินัย อันสงฆ์ให้แล้วแก่คัคคะภิกษุ ผู้หาย
วิกลจริตแล้ว ชอบแก่สงฆ์ เหตุนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้า
ทรงความนี้ไว้ อย่างนี้.

ให้อมูฬหวินัยไม่เป็นธรรม 3 หมวด


[602] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การให้อมูฬหวินัย ไม่เป็นธรรม
3 หมวด เป็นธรรม 3 หมวดนี้ การให้อมูฬหวินัย ไม่เป็นธรรม
3 หมวด เป็นไฉน?

หมวดที่ 1


ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุในธรรนวินัยนี้ ต้องอาบัติ สงฆ์หรือ
ภิกษุ 2-3 รูป หรือภิกษุรูปเดียว โจทเธอว่าท่านต้องอาบัติแล้วจงระลึก
อาบัติเห็นปานนี้ เธอกำลังระลึก กล่าวอย่างนี้ว่าท่าน ข้าพเจ้าต้อง
แล้ว แต่ระลึกอาบัติเห็นปานนี้ไม่ได้ สงฆ์ให้อมูฬหวินัยแก่เธอ การ
ให้อมูฬหวินัยไม่เป็นธรรม.

หมวดที่ 2


[603] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ต้องอาบัติ
สงฆ์หรือภิกษุ 2-3 รูป หรือภิกษุรูปเดียวโจทเธอว่า ท่านต้องอาบัติ