เมนู

ควรแต่งตั้งเสนาสนะ และแจกอาหารแก่สงฆ์ ข้าพระพุทธเจ้าปรารถนา
จะแต่งตั้งเสนาสนะ และแจกอาหารแก่สงฆ์ พระพุทธเจ้าข้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดีละ ดีละ ทัพพะ ถ้าเช่นนั้น
เธอจงแต่งตั้งเสนาสนะ และแจกอาหารแก่สงฆ์เถิด ท่านพระทัพพ-
มัลลบุตรทูลรับสนองพระพุทธานุญาตแล้ว.

สมมติภิกษุแต่งตั้งเสนาสนะเป็นต้น


[592] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำธรรมีกถา ใน
เพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุ
ทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าเช่นนั้น สงฆ์จงสมมติทัพพมัลล-
บุตรให้เป็นผู้แต่งตั้งเสนาสนะ และแจกอาหาร
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แล สงฆ์พึงสมมติอย่างนี้ เบื้องต้นพึง
ขอให้ทัพพะรับ ครั้นแล้วภิกษุผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์
ทราบด้วยญัตติทุติยกรรมวาจาว่าดังนี้:-

กรรมวาจาสมมติ


ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ถ้าความพร้อม
พรั่ง ของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึงสมมติท่านพระทัพพ-
มัลลบุตร ให้เป็นผู้แต่งเสนาสนะและแจกอาหาร นี้
เป็นญัตติ

ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า สงฆ์สมมติ
ท่านพระทัพพมัลลบุตรให้เป็นผู้แต่งตั้งเสนาสนะและแจก
อาหาร การสมมติท่านพระทัพพมัลลบุตร ให้เป็นผู้แต่ง
ตั้งเสนาสนะและแจกอาหาร ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้
นั้นพึงเป็นผู้นิ่ง ไม่ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงพูด
ท่านพระทัพพมัลลบุตร อันสงฆ์สมมติให้เป็นผู้
แต่งตั้งเสนาสนะและแจกอาหารแล้ว ชอบแก่สงฆ์ เหตุ
นั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้าทรงความนี้ไว้ อย่างนี้.

[593] ก็แล ท่านพระทัพพมัลลบุตรอันสงฆ์สมมติแล้ว ย่อม
แต่งตั้งเสนาสนะสำหรับหมู่ภิกษุผู้เสมอกันรวมไว้เป็นพวก ๆ คือ ภิกษุ
เหล่าใดทรงพระสูตร ท่านก็แต่งตั้งเสนาสนะรวมภิกษุเหล่านั้นไว้แห่งเดียว
กัน ด้วยประสงค์ว่า พวกเธอจักซักซ้อมพระสูตรกัน ภิกษุเหล่าใด
ทรงพระวินัย ท่านก็แต่งตั้งเสนาสนะรวมภิกษุเหล่านั้น ไว้แห่งเดียวกัน
ด้วยประสงค์ว่า พวกเธอจักวินิจฉัยพระวินัยกัน ภิกษุเหล่าใดเป็นพระ-
ธรรมกถึก ท่านก็แต่งตั้งเสนาสนะรวมภิกษุเหล่านั้นไว้แห่งเดียวกัน ด้วย
ประสงค์ว่า พวกเธอจักสนทนาธรรมกัน ภิกษุเหล่าใดได้ฌาน ท่านก็
แต่งตั้งเสนาสนะรวมภิกษุเหล่านั้นไว้แห่งเดียวกัน ด้วยประสงค์ว่า พวก
เธอจักไม่รบกวนกัน ภิกษุเหล่าใดชอบกล่าวดิรัจฉานกถา มีการบำรุงร่าง
กายอยู่มาก ท่านก็แต่งตั้งเสนาสนะรวมภิกษุเหล่านั้นไว้แห่งเดียวกัน ด้วย
ประสงค์ว่า ท่านเหล่านี้จักอยู่ด้วยความยินดีแม้นี้ ภิกษุเหล่าใดมาในเวลา
ค่ำคืน ท่านก็เข้าจตุตถฌานมีเตโชกสิณเป็นอารมณ์ แล้วแต่งตั้งเสนาสนะ

สำหรับภิกษุแม้เหล่านั้น ด้วยแสงสว่างนั้นแล ภิกษุทั้งหลาย ย่อมแกล้ง
มาแม้เวลาค่ำ ด้วยประสงค์ว่า พวกเราจักได้ดูอิทธิปาฏิหาริย์ของท่าน
พระทัพพมัลลบุตร ดังนี้ก็มี
ภิกษุเหล่านั้นเข้าไปหาท่านพระทัพพมัลลบุตร แล้วพูดอย่างนี้ว่า
พระคุณเจ้าทัพพะ ขอท่านจงแต่งตั้งเสนาสนะให้พวกข้าพเจ้า
ท่านพระทัพพมัลลบุตรถามภิกษุเหล่านั้นอย่างนี้ว่า ท่านปรารถนา
ที่ไหน ผมจะแต่งตั้งที่นั้น ภิกษุเหล่านั้นแกล้งกล่าวอ้างที่ไกล ๆ ว่า
พระคุณเจ้าทัพพะ ขอท่านจงแต่งตั้งเสนาสนะให้พวกข้าพเจ้าที่ภูเขา
คิชฌกูฏ ขอท่านจงแต่งตั้งเสนาสนะให้พวกข้าพเจ้าที่เหวสำหรับทิ้งโจร
ขอท่านจงแต่งตั้งเสนาสนะให้พวกข้าพเจ้าที่กาฬศิลาข้างภูเขาอิสิคิลิ ขอ
ท่านจงแต่งตั้งเสนาสนะให้พวกข้าพเจ้าที่ถ้ำสัตตบรรณคูหาข้างภูเขาเวภาระ
ขอท่านจงแต่งตั้งเสนาสนะให้พวกข้าพเจ้าที่เงื้อมเขาสัปปโสณฑิกะใกล้
สีตวัน ขอท่านจงแต่งตั้งเสนาสนะให้พวกข้าพเจ้าที่ซอกเขาโคมฏะ ขอ
ท่านจงแต่งตั้งเสนาสนะให้พวกข้าพเจ้าที่ซอกเขาติณฑุกะ ขอท่านจงแต่ง
ตั้งเสนาสนะให้พวกข้าพเจ้าที่ซอกเขากโปตะ ขอท่านจงแต่งตั้งเสนาสนะ
ให้พวกข้าพเจ้าที่ตโปทาราม ขอท่านจงแต่งตั้งเสนาสนะให้พวกข้าพเจ้าที่
ชีวกัมพวัน ขอท่านจงแต่งตั้งเสนาสนะให้พวกข้าพเจ้าที่มัททกุจฉิมฤค-
ทายวัน
ท่านพระทัพพมัลลบุตร จึงเข้าจตุตถฌานมีเตโชกสิณเป็นอารมณ์
มีองคุลีส่องสว่างเดินนำหน้าภิกษุเหล่านั้นไป แม้ภิกษุเหล่านั้นก็เดินตาม
หลังท่านพระทัพพมัลลบุตร ด้วยแสงสว่างนั้นแล ท่านพระทัพพมัลลบุตร

แต่งตั้งเสนาสนะสำหรับภิกษุเหล่านั้น โดยชี้แจงอย่างนี้ว่า นี่เตียง
นี่ตั่ง นี่ฟูก นี่หมอน นี่ที่ถ่ายอุจจาระ นี่ที่ถ่ายปัสสาวะ นี่น้ำฉัน
นี่น้ำใช้ นี่ไม้เท้า นี่ระเบียบกติกาสงฆ์ ควรเข้าเวลานี้ ควรออกเวลานี้
ครั้นแต่งตั้งเสนาสนะเพื่อภิกษุเหล่านั้นเสร็จแล้ว กลับมาสู่พระเวฬุวัน-
วิหารตามเดิม.

เรื่องพระเมตติยะและพระภุมมชกะ


[594] ก็โดยสมัยนั้นแล พระเมตติยะและพระภุมมชกะ เป็น
พระบวชใหม่และมีบุญน้อย เสนาสนะของสงฆ์ชนิดเลว และอาหารอย่าง
เลว ย่อมตกถึงแก่เธอทั้งสอง ครั้งนั้น ชาวบ้านในพระนครราชคฤห์
ชอบถวายเนยใสบ้าง น้ำมันบ้าง แกงที่มีรสดี ๆ บ้าง ซึ่งจัดปรุงเฉพาะ
พระเถระ ส่วนพระเมตติยะและพระภุมมชกะ เขาถวายอาหารอย่าง
ธรรมดาตามแต่จะหาได้ มีชนิดปลายข้าว มีน้ำส้มเป็นกับ เวลาหลัง
อาหารเธอทั้งสองกลับจากบิณฑบาตแล้ว เที่ยวถามพวกพระเถระว่า ใน
โรงฉันของพวกท่านมีอาหารอะไรบ้าง ขอรับ ในโรงฉันของพวกท่าน
ไม่มีอะไรบ้าง ขอรับ พระเถระบางพวกบอกอย่างนี้ว่า พวกเรามีเนยใส
น้ำมัน แกงที่มีรสอร่อย ๆ ส่วนพระเมตติยะและพระภุมมชกะพูดอย่าง
นี้ว่า พวกข้าพเจ้าไม่มีอะไรเลย ขอรับ มีแต่อาหารอย่างธรรมดาตาม
แต่จะหาได้ เป็นชนิดปลาข้าวมีน้ำส้มเป็นกับ
[595] สมัยต่อมา คหบดีผู้ชอบถวายอาหารที่ดี ถวายภัตตาหาร
วันละ 4 ที่แก่สงฆ์เป็นนิตยภัต เขาพร้อมด้วยบุตรภรรยา อังคาสอยู่