วัน แก่ข้าพเจ้านั้น ท่านเจ้าข้า ข้าพเจ้านั้นประพฤติ
มานัตแล้ว ขออัพภานกะสงฆ์
พึงขอแม้ครั้งที่สอง พึงขอแม้ครั้งที่สาม.
[439] ภิกษุผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วย
ญัตติจตุตถกรรมวาจา ว่าดังนี้ :-

กรรมวาจาอัพภาน

สงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน
เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ
ปิดบังไว้ 5 วัน แก่ภิกษุอุทายี เธออยู่ปริวาสแล้ว ควร
มานัต ได้ต้องอาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกา-
สุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ 5 วัน เธอขอการชักเข้าหาอาบัติ
เดิมเพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกาสุกก-
วิสัฏฐิ ปิดบังไว้ 5 วัน กะสงฆ์ สงฆ์ได้ชักภิกษุอุทายีเข้า
หาอาบัติเดิม เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจต-
นิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ 5 วัน เธอขอปริวาสประมวล
อาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง
ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ 5 วัน กะสงฆ์ สงฆ์
ได้ให้ปริวาสประมวลอาติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติ
ตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้
5 วัน แก่ภิกษุอุทายี เธออยู่ปริวาสแล้ว ขอมานัต 6
ราตรี เพื่ออาบัติ 3 วันกะสงฆ์ สงฆ์ได้ให้มานัต
6 ราตรี เพื่ออาบัติ 3 ตัวแก่ภิกษุอุทายี เธอกำลงประ-
พฤติมานัต ได้ต้องอาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจต
นิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ 5 วัน เธอขอการชักเข้าหา
อาบัติเดิม เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกา-
สุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ 5 วันกะสงฆ์ สงฆ์ได้ชักภิกษุ
อุทายีเข้าหาอาบัติเดิม เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อ

สัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ 5 วัน เธอขอปริวาส
ประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติตัวหนึ่งใน
ระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ 5 วันกะ-
สงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน
เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ
ปิดบังไว้ 5 วัน แก่ภิกษุอุทายี เธออยู่ปริวาสแล้ว ขอ
มานัต 6 ราตรี เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจต-
นิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ 5 วัน กะสงฆ์ สงฆ์ได้ให้มานัต
6 ราตรี เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกา-
สุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ 5 วันแก่ภิกษุอุทายี เธอประพฤติ
มานัตแล้ว ควรอัพภาน ได้ต้องอาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง
ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ 5 วัน เธอขอการชัก
เข้าหาอาบัติเดิม เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจต-
นิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ 5 วันกะสงฆ์ สงฆ์ได้ชักภิกษุ
อุทายีเข้าหาอาบัติเดิม เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อ
สัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ 5 วัน เธอขอปริวาส
ประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติตัวหนึ่งใน
ระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ 5 วัน
กะสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วย
กัน เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อสัญเจตนิกาสุกก-

วิสัฏฐิ ปิดบังไว้ 5 วัน แก่ภิกษุอุทายี เธออยู่ปริวาสแล้ว
ขอมานัต 6 ราตรี เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อ
สัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ 5 วันกะสงฆ์ สงฆ์
ได้ให้มานัต 6 ราตรี เพื่ออาบัติตัวหนึ่งในระหว่าง ชื่อ
สัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้ 5 วัน แก่ภิกษุอุทายี
เธอประพฤติมานัตแล้ว ขออัพภานกะสงฆ์ ถ้าความ
พร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึงอัพภานภิกษุอุทายี
นี้เป็นญัตติ
ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุอุทายีนี้
ต้องอาบัติตัวหนึ่ง ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดบังไว้
1 ปักษ์ ....เธอประพฤติมานัตแล้ว ขออัพภานกะสงฆ์
สงฆ์อัพภานภิกษุอุทายี การอัพภานภิกษุอุทายี ชอบแก่
ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงเป็นผู้นิ่ง ไม่ชอบแก่ท่านผู้ใด
ท่านผู้นั้นพึงพูด
ข้าพเจ้ากล่าวความนี้ แม้ครั้งที่สอง....
ข้าพเจ้ากล่าวความนี้แม้ครั้งที่สาม....
ภิกษุอุทายี อันสงฆ์อัพภานแล้ว ชอบแก่สงฆ์
เหตุนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้าทรงความนี้ไว้ อย่างนี้.
อาบัติสุกกวิสัฏฐิ จบ

อัคฆสโมธานปริวาส

[440] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลาย
ตัว คือ อาบัติตัวหนึ่งปิดบังไว้ 1 วัน อาบัติตัวหนึ่งปิดบังไว้ 2 วัน
อาบัติตัวหนึ่งปิดบังไว้ 3 วัน อาบัติตัวหนึ่งปิดบังไว้ 4 วัน อาบัติตัว-
หนึ่งปิดบังไว้ 5 วัน อาบัติตัวหนึ่งปิดบังไว้ 6 วัน อาบัติตัวหนึ่งปิด
บังไว้ 7 วัน อาบัติตัวหนึ่งปิดบังไว้ 8 วัน อาบัติตัวหนึ่งปิดบังไว้
9 วัน อาบัติตัวหนึ่งปิดบังไว้ 10 วัน เธอจึงแจ้งแก่ภิกษุทั้งหลายว่า
ท่านทั้งหลาย ข้าพเจ้าต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว คือ อาบัติตัวหนึ่ง
ปิดบังไว้ 1 วัน....อาบัติตัวหนึ่งปิดบังไว้ 10 วัน ข้าพเจ้าจะพึงปฏิบัติ
อย่างไร ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล
สงฆ์จงให้ปริวาสประมวลกันโดยค่าแห่งอาบัติที่ปิดบังไว้ 10 วัน เพื่อ
อาบัติเหล่านั้น แก่ภิกษุนั้น.

วิธีให้อัคฆสโมธานปริวาส

[441] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็เเล สงฆ์พึงให้อย่างนี้ ภิกษุนั้น
พึงเข้าไปหาสงฆ์ ห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า ไหว้เท้าภิกษุผู้แก่กว่า นั่ง
กระโหย่งประคองอัญชลี แล้วกล่าวคำขอ ว่าดังนี้:-

คำขออัคฆสโมธานปริวาส