เมนู

[375] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าสงฆ์มีภิกษุผู้ควรอัพภานเป็นที่
พึงให้ปริวาสพึงชักเข้าหาอาบัติเดิม พึงให้มานัต สงฆ์ 20 รูป ทั้งภิกษุ
ผู้ควรอัพภานนั้นพึงอัพภาน การกระทำดังนั้นใช้ไม่ได้ และไม่ควรทำ.
อัพภานารหวัตร จบ
ปาริวาสิกขันธกะ ที่ 2 จบ
ในขันธกะนี้มี 5 เรื่อง

หัวข้อประจำขันธกะ


[376] 1. ภิกษุทั้งหลายผู้อยู่ปริวาส ยินดีการกราบไหว้ การ
ลุกรับ อัญชลีกรรม สามีจิกรรม การนำอาสนะมาให้ การนำที่นอนมา
ให้ การล้างเท้า การตั้งตั่งรองเท้า การตั้งกระเบื้องเช็ดเท้า การรับ
บาตรจีวร การถูหลังให้เมื่ออาบน้ำ ของปกตัตตะภิกษุทั้งหลาย
บรรดาภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก จึงเพ่งโทษ เป็นทุกกฏแก่ภิกษุผู้อยู่ปริวาส
ผู้ยินดี ทรงอนุญาตแก่ภิกษุผู้อยู่ปริวาสด้วยกันตามลำดับผู้แก่พรรษา และ
ทรงอนุญาตกิจ 5 อย่าง คือ อุโบสถ 1 ปวารณา 1 ผ้าอาบน้ำฝน 1
การสละภัตร 1 การรับภัตร 1 วิธีประพฤติชอบ คือ ภิกษุผู้อยู่ปริวาส
ไม่ไปข้างหน้าปกตัตตะภิกษุ พอใจด้วยที่สุดท้าย ไม่มีสมณะนำหน้าและ
ตามหลังเข้าไปสู่สกุล ไม่สมาทานอารัญญิกธุดงค์ ปิณฑปาติกธุดงค์
ไม่ให้เขานำบิณฑบาตมาส่ง เป็นอาคันตุกะไป และมีอาคันตุกะมา

ต้องบอก พึงบอกในอุโบสถ ในปวารณา สั่งทูตไห้บอก ไปสู่อาวาส
และถิ่นมิใช่อาวาสที่มีภิกษุ ไม่พึงอยู่ในที่มุงเดียวกัน เมื่อปกตัตตะภิกษุ
นั่ง ณ พื้นดิน ไม่นั่ง ณ อาสนะ เมื่อปกตัตตะภิกษุนั่งอาสนะต่ำ ไม่นั่ง
อาสนะสูง เมื่อปกตัตตะภิกษุจงกรมในที่ต่ำ ไม่จงกรมในที่สูง หรือ
จงกรม ณ พื้นดิน ไม่จงกรมในที่จงกรม ไม่พึงอยู่ในที่มุงเดียวกัน....
กับภิกษุผู้อยู่ปริวาสผู้แก่พรรษากว่า ทำกรรมใช้ไม่ได้ รัตติเฉท ชำระ
ปริวาส ภิกษุผู้อยู่ปริวาส พึงทราบวิธีเก็บวัตร สมาทานวัตร ภิกษุ
ผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม ผู้ควรมานัต ผู้ประพฤติมานัต และผู้ควร
อัพภาน ปราชญ์พึงทราบโดยนัยที่เจือกันอีก
รัตติเฉทของภิกษุผู้อยู่ปริวาสมี 3 ของภิกษุผู้ประพฤติมานัตมี 4 ไม่
เท่ากัน และประพฤติมานัตให้ครบวัน กรรม 2 อย่างคล้ายกัน 3 อย่าง
นอกนั้นเหมือนกันแล.
หัวข้อประจำขันธกะ จบ

ปาริวาสิกักขันธกวรรณนา


ปาริวาสิกวัตรกถา


วินิจฉัยในปาริวาสิกักขันธกะ นี้ พึงทราบดังนี้ :-
บทว่า ปาริวาสิกา ได้เเก่ ภิกษุผู้อยู่ปริวาส.
ในคำว่า ปาริวาสิกา นั้น ปริวาสมี 4 อย่าง คือ อัป-
ปฏิจฉันนปริวาส 1 ปฏิจฉันนปริวาส 1 สุทธันตปริวาส 1 สโมธาน
ปริวาส 1.
บรรดาปริวาส 4 อย่างนั้น ติตถิยปริวาส ที่พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสไว้ในมหาขันธกะอย่างนี้ว่า ภิกษุทั้งหลาย บุคคลใดแม้อื่นผู้เคย
เป็นอัญญเดียรถีย์ หวังบรรพชา หวังอุปสมบท ในธรรมวินัยนี้,
สงฆ์พึงให้ปริวาส 4 เดือนแก่บุคคลนั้น ดังนี้ ชื่ออัปปฏิจฉันนปริวาส
คำใดที่จะพึงกล่าวในอัปปฏิจฉันนปริวาสนั้น คำนั้นข้าพเจ้าได้กล่าวไว้ดี
แล้วแล. แต่ว่าอัปปฏิจฉันนปริวาสนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ทรงประสงค์
ในปาริวาสิกักขันธกะนี้. ปริวาส 3 อย่างที่เหลือ สงฆ์พึงให้แก่ภิกษุผู้
ต้องอาบัติสังฆาทิเสสแล้วและปกปิดไว้. คำใดที่จะพึงกล่าวในปริวาส 3
อย่างนั้น คำนั้นข้าพเจ้าจักพรรณนาในสมุจจยักขันธกะ. ก็แลปริวาส 3
อย่างนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประสงค์ในปาริวาสิกักขันธกะนี้. เพราะ
เหตุนั้น ภิกษุผู้อยู่ปริวาสอย่างใดอย่างหนึ่งใน 3 ปริวาสนี้ พึงทราบว่า
ปาริวาสิกภิกษุ.