เมนู

5. แม้ได้รับสมมติไว้แล้ว ก็ไม่พึงสั่งสอนภิกษุณี
6. ถูกสงฆ์ลงตัชชนียกรรมเพราะอาบัติใด ไม่พึงต้องอาบัตินั้น
7. ไม่พึงต้องอาบัติอื่นอันเช่นกัน
8. ไม่พึงต้องอาบัติอันเลวทรามกว่านั้น
9. ไม่พึงติกรรม
10. ไม่พึงติภิกษุทั้งหลายผู้ทำกรรม
11. ไม่พึงห้ามอุโบสถแก่ปกตัดตะภิกษุ
12. ไม่พึงห้ามปวารณาแก่ปกตัตตะภิกษุ
13. ไม่พึงทำการไต่สวน
14. ไม่พึงเริ่มอนุวาทาธิกรณ์
15. ไม่พึงยังภิกษุอื่นให้ทำโอกาส
16. ไม่พึงโจทภิกษุอื่น
17. ไม่พึงให้ภิกษุอื่นให้การ
18. ไม่พึงช่วยภิกษุต่อภิกษุให้สู้อธิกรณ์กัน.
วัตร 18 ข้อ ในตัชชนียกรรม จบ

วัตรที่ควรระงับและไม่ควรระงับ


[35] ครั้งนั้น สงฆ์ได้ลงตัชชนียกรรมแก่ภิกษุพวกพระปัณฑุกะ
และพระโลหิตกะแล้ว พวกนั้นถูกสงฆ์ลงตัชชนียกรรมแล้ว ประพฤติโดย
ชอบหายเย่อหยิ่ง ประพฤติแก้ตัวได้ เข้าไปหาภิกษุทั้งหลายแล้วกล่าวอย่าง
นี้ว่า อาวุโสทั้งหลาย พวกผมถูกสงฆ์ลงตัชชนียกรรมแล้ว ได้ประพฤติ

โดยชอบหายเย่อหยิ่ง ประพฤติแก้ตัวได้ พวกผมจะพึงปฏิบัติอย่างไรต่อ
ไป ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าเช่นนั้น สงฆ์
จงระงับตัชชนียกรรมแก่ภิกษุพวกปัณฑุกะและโลหิตกะ.

วัตรที่ไม่ควรระงับ 18 ข้อ 3 หมวด


หมวดที่ 1


[ 36] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สงฆ์ไม่พึงระงับตัชชนียกรรมแก่ภิกษุ
ผู้ประกอบด้วยองค์ 5 คือ:-
1. ให้อุปสมบท
2. ให้นิสัย
3. ให้สามเณรอุปัฏฐาก
4. รับสมมติเป็นผู้สั่งสอนภิกษุณี
5. แม้ได้รับสมมติแล้ว ก็ยังสั่งสอนภิกษุณี
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยองค์ 5 นี้แล สงฆ์ไม่พึง
ระงับตัชชนียกรรม.

หมวดที่ 2


[37] ดูก่อนภิกษุทั้งหลายสงฆ์ไม่พึงระงับตัชชนียกรรมแก่ภิกษุผู้
ประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก คือ:-
1. ถูกสงฆ์ลงตัชชนียกรรมเพราะอาบัติใด ต้องอาบัตินั้น
2. ต้องอาบัติอื่นลันเช่นกัน