เมนู

อุกเขปนียกรรม ที่ 5


เรื่องพระฉันนะ


[174] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ โฆสิตาราม
เขตพระนครโกสัมพี ครั้งนั้น ท่านพระฉันนะต้องอาบัติแล้ว ไม่ปรา-
รถนาจะเห็นอาบัติ บรรดาภิกษุที่เป็นผู้มักน้อยต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน
โพนทะนาว่า ไฉนท่านพระฉันนะต้องอาบัติแล้ว จึงได้ไม่ปรารถนาจะ
เห็นอาบัติเล่า แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.

ประชุมสงฆ์ทรงสอบถาม


[175] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งให้ประชุมภิกษุสงฆ์
ในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วทรงสอบถาม
ภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ได้ยินว่า ภิกษุฉันนะต้องอาบัติ
แล้วไม่ปรารถนาจะเห็นอาบัติจริงหรือ?
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.

ทรงติเตียน


พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การ
กระทำของโมฆบุรุษนั้นนั่น ไม่เหมาะ ไม่สม ไม่ควร มิใช่กิจของสมณะ
ใช้ไม่ได้ ไม่ควรทำ ไฉน โมฆบุรุษนั้นต้องอาบัติแล้วจึงไม่ปรารถนาจะ
เห็นอาบัติเล่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การกระทำของโมฆบุรุษนั้นนั่น ไม่
เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุนชนที่ยังไม่เลื่อมใส........ครั้นแล้ว ทรงทำ

ธรรมีกถารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่าดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าเช่นนั้น สงฆ์จง
ทำอุกเขปนียกรรม ฐานไม่เห็นอาบัติแก่ภิกษุฉันนะ คือ ห้ามสมโภค
กับสงฆ์.

วิธีลงอุกเขปนียกรรม ฐานไม่เห็นอาบัติ


ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แล วิธีลงอุกเขปนียกรรม ฐานไม่เห็น
อาบัติ พึงทำอย่างนี้ คือ พึงโจทภิกษุฉันนะก่อน ครั้นแล้วพึงให้เธอ
ให้การ แล้วพึงปรับอาบัติ ครั้นแล้ว ภิกษุผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึง
ประกาศให้สงฆ์ทราบ ด้วยญัตติจตุตถกรรมวาจา ว่าดังนี้:-

กรรมวาจาลงอุกเขปนียกรรม ฐานไม่เห็นอาบัติ


ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า พระฉันนะนี้
ต้องอาบิตแล้ว ไม่ปรารถนาจะเห็นอาบัติ ถ้าความพร้อม
พรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้วสงฆ์พึงทำอุกเขปนียกรรม ฐานไม่
เห็นอาบิตแก่พระฉันนะ คือ ห้ามสมโภคกับสงฆ์ นี่เป็น
ญัตติ
ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า พระฉันนะนี้
ต้องอาบัติแล้วไม่ปรารถนาจะเห็นอาบัติ สงฆ์ทำอุกเขป-
นียกรรม ฐานไม่เห็นอาบิตแก่พระฉันนะ คือ ห้ามสม-
โภคกับสงฆ์ การทำอุกเขปนียกรรม ฐานไม่เห็นอาบัติ
แก่พระฉันนะ คือ ห้ามสมโภคกับสงฆ์ ชอบแก่ท่านผู้ใด