เมนู

ภิ. ท่านรูปนั้นอาพาธเป็นโรคริดสีดวงทวาร นายแพทย์อากาสโคตตะ
ทำการผ่าตัดทวารหนักด้วยศัสตรา พระพุทธเจ้า.
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การ
กระทำของโมฆบุรุษนั้น ไม่เหมาะ ไม่สม ไม่ควร มิใช่กิจของสมณะ ใช้ไม่ได้
ไม่ควรทำ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉนโมฆบุรุษนั้นจึงได้ให้ทำสัตถกรรมในที่
แคบเล่า ในที่แคบมีผิวเนื้ออ่อน แผลงอกเต็มยาก ผ่าตัดไม่สะดวก การกระทำ
ของโมฆบุรุษนั้นไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส . . .
ครั้นแล้วทรงทำธรรมีกถา รับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุ
ไม่พึงทำสัตถกรรมในที่แคบ รูปใดให้ทำ ต้องอาบัติถุลลัจจัย.

พระพุทธบัญญัติห้ามทำวัตถิกรรม


สมัยต่อมา พระฉัพพัคคีย์ทราบว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงห้ามทำการ
ผ่าตัดทวารหนักด้วยศัสตรา จึงเลี่ยงให้ทำการรัดหัวไส้ บรรดาภิกษุที่มักน้อย
. . . ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนพระฉัพพัคคีย์จึงได้ให้ทำ
วัตถิกรรมเล่าแล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข่าวว่าภิกษุฉัพพัคคีย์ให้ทำวัตถิกรรม จริงหรือ ?
ภิกษุทั้งหลายทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า. . . ครั้นแล้วทรงทำธรรมี-
กถา รับสั่งห้ามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงให้ทำสัตถกรรม
หรือวัตถิกรรมในที่ประมาณ 2 นิ้ว โดยรอบแห่งที่แคบ รูปใดให้ทำ ต้อง
อาบัติถุลลัจจัย.

อุบาสิกาสุปปิยาถวายเนื้อขา


[58] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ในพระนครราชคฤห์
ตามพระพุทธาภิรมย์ แล้วเสด็จพระพุทธดำเนินไปทางพระนครพาราณสี เสด็จ
พระพุทธดำเนินผ่านระยะทางโดยลำดับถึงพระนครพาราณสีแล้ว ทราบว่า
พระองค์ประทับอยู่ ณ อิสิปตนะมฤคทายวันเขตพระนครพาราณสีนั้น สมัยนั้น
อุบาสกสุปปิยะและอุบาสิกาสุปปิยา 2 คน เป็นผู้เลื่อมใส เป็นทายก กัปปิยการก
บำรุงพระสงฆ์อยู่ในพระนครพาราณสี วันหนึ่ง อุบาสิกาสุปปิยาไปสู่อาราม
เที่ยวเยี่ยมวิหารและบริเวณทั่วทุกแห่ง แล้วเรียนถามภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุ
รูปไรอาพาธ ภิกษุรูปไรโปรดให้ดิฉันนำอะไรมาถวาย เจ้าข้า.
ครั้งนั้น ภิกษุรูปหนึ่งดื่มยาถ่ายและได้บอกอุบาสิกาสุปปิยาว่า ดูก่อน
น้องหญิง อาตมาดื่มยาถ่าย อาตมาต้องการน้ำเนื้อต้ม.
อุบาสิกาสุปปิยารับคำว่า ดิฉันจักนำมาถวายเป็นพิเศษ เจ้าข้า แล้ว
ไปเรือนสั่งชายคนรับใช้ว่า เจ้าจงไปหาซื้อเนื้อสัตว์ที่เขาขายมา.
ชายคนรับใช้รับคำอุบาสิกาสุปปิยาว่า ขอรับกระผม แล้วเที่ยวหาซื้อ
ทั่วพระนครพาราณสีก็มิได้พบเนื้อสัตว์ที่เขาขาย จึงได้กลับไปหาอุบาสิกาสุปปิยา
แล้วเรียนว่า เนื้อสัตว์ที่เขาขายไม่มี ขอรับ เพราะวันนี้ห้ามฆ่าสัตว์.
อุบาสิกาสุปปิยาจึงได้มีความปริวิตกว่า ภิกษุอาพาธรูปนั้นแล เมื่อ
ไม่ได้ฉันน้ำเนื้อต้ม อาพาธจักมากขึ้นหรือจักถึงมรณภาพ การที่เรารับคำแล้ว
ไม่จัดหาไปถวายนั้น เป็นการไม่สมควรแก่เราเลย ดังนี้ แล้วได้หยิบมีดหั่น
เนื้อมาเชือดเนื้อขา ส่งให้หญิงคนรับใช้สั่งว่า แม่สาวใช้ ผิฉะนั้น แม่จงต้ม
เนื้อนี้แล้วนำไปถวายภิกษุรูปที่อาพาธอยู่ในวิหารหลังโน้น อนึ่ง ผู้ใดถามถึงฉัน
จงบอกว่าป่วย แล้วเอาผ้าห่มพันขา เข้าห้องนอนบนเตียง.