เมนู

พระพุทธานุญาตให้รับประเคนของที่เป็นอุคคหิต


ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำธรรมีกถา ในเพราะเหตุเป็น
เค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย เราอนุญาต ภิกษุเห็นของขบเคี้ยว คือ ผลไม้ในที่ใด ถึงกัปปิยการก
ไม่มี ก็ให้หยิบนำไปเอง พบกัปปิยการกแล้ว วางไว้บนพื้นดิน ให้กัปปิยการก
ประเคนแล้วฉัน.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้รับประเคนสิ่งของที่ภิกษุถูกต้อง
แล้วได้.

พราหมณ์ถวายงาและน้ำผึ้งใหม่


[53] ก็โดยสมัยนั้นแล งานใหม่และน้ำผึ้งใหม่บังเกิดแก่พราหมณ์
ผู้หนึ่ง พราหมณ์จึงได้ติดตกลงว่า ผิฉะนั้น เราพึงถวายงาใหม่และน้ำผึ้งใหม่
แก่ภิกษุสงฆ์ มีองค์พระพุทธเจ้าเป็นประมุข ครั้นแล้วได้ไปในพุทธสำนัก
ครั้นถึงแล้วได้ทูลปราศรัยกับพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นผ่านการทูลประศรัยพอ
ให้เป็นที่บันเทิง เป็นที่ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
พราหมณ์ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลคำนี้แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
ว่า พระพุทธเจ้าข้า ขอท่านพระโคดมพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ จงทรงพระกรุณา
โปรดรับภัตตาหารของข้าพระพุทธเจ้าในวันพรุ่งนี้ เพื่อเจริญบุญกุศล และ
ปีติปราโมทย์แก่ข้าพระพุทธเจ้าด้วยเถิด.
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับนิมนต์โดยดุษณีภาพ ครั้นพราหมณ์นั้น
ทราบการรับนิมนต์ของพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วกลับไป แล้วสั่งให้ตกแต่ง
ของเคี้ยวของฉันอันประณีตโดยผ่านราตรีนั้นแล้ว ให้คนไปกราบทูลภัตกาล
แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่าถึงเวลาแล้ว ท่านพระโคดม ภัตตาหารเสร็จแล้ว.

ขณะนั้นเป็นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงครองอันตรวาสกแล้ว
ถือบาตรจีวรเสด็จพระพุทธดำเนินไปสู่นิเวศน์ของพราหมณ์นั้น ครั้นถึงแล้ว
ประทับนั่งเหนือพระพุทธอาสน์ที่เขาจัดถวาย พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ พราหมณ์นั้น
จึงอังคาสภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ด้วยขาทนียโภชนียาหารอัน
ประณีต ด้วยมือของตน ยังพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เสวยจนเสร็จแล้ว ทรงนำ
พระหัตถ์ออกจากบาตรให้ห้ามภัตรแล้วนั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง พระผู้มี
พระภาคเจ้าทรงชี้แจงพราหมณ์นั้นผู้นั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ให้เห็นแจ้ง
สมาทาน อาจหาญ ร่าเริง ด้วยธรรมีกถาแล้วลุกจากที่ประทับเสด็จกลับ ครั้น
พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จกลับแล้วไม่ทันนานพราหมณ์นั้นระลึกขึ้นได้ว่า เราคิด
ว่าจักถวายงาใหม่และน้ำผึ้งใหม่ จึงได้นิมนต์ภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็น
ประมุข เพื่อถวายไทยธรรมเหล่าใด ไทยธรรมเหล่านั้นเราลืมถวาย ผิฉะนั้น
เราพึงให้เขาจัดงาใหม่และน้ำผึ้งใหม่บรรจุขวดและหม้อนำไปสู่ อาราม ดังนี้
แล้วให้เขาจัดงาใหม่และน้ำผึ้งใหม่บรรจุขวดและหม้อนำไปสู่อาราม เข้าไปใน
พุทธสำนัก ครั้นถึงแล้วได้ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลคำนี้
แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ท่านพระโคดม ข้าพระพุทธเจ้าคิดว่าจักถวายงาใหม่
และน้ำผึ้งใหม่ จึงได้นิมนต์ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข เพื่อถวายไทย
ธรรมเหล่าใด ไทยธรรมเหล่านั้นข้าพระพุทธเจ้าลืมถวาย ขอท่านพระโคตม
โปรดรับงาใหม่และน้ำผึ้งใหม่ของข้าพระพุทธเจ้าเถิด.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนพราหมณ์ ถ้าเช่นนั้น เธอจงถวาย
แก่ภิกษุทั้งหลาย.
ก็คราวนั้นอัตคัดอาหาร ภิกษุทั้งหลายรับสิ่งของเล็กน้อยแล้วห้ามเสีย
บ้าง พิจารณาแล้วห้ามเสียบ้าง เป็นอันว่าพระสงฆ์ล้วนเป็นผู้ห้ามภัตรทั้งนั้น
ภิกษุทั้งหลายรังเกียจ ไม่รับประเคน.

พระพุทธานาญาตให้ฉันโภชนะไม่เป็นเดน


พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุ ทั้ง
หลาย พวกเธอจงรับประเคนฉันเถิด เราอนุญาตให้ภิกษุฉันเสร็จ ห้ามภัตร
แล้ว ฉันโภชนะอันไม่เป็นเดน ซึ่งนำมาจากสถานที่ฉัน.

ตระกูลอุปัฏฐากของพระอุปนันทศากยบุตร


[54] ก็สมัยนั้นแล ตระกูลอุปัฏฐากของท่านพระอุปนันทศากยบุตร
ได้ส่งของเคี้ยวไปเพื่อถวายพระสงฆ์ สั่งว่า ต้องมอบให้พระคุณเจ้าอุปนนท์
ถวายสงฆ์แต่เวลานั้นท่านพระอุปนันทศากยบุตร กำลังเข้าไปบิณฑบาตในบ้าน
ครั้นชาวบ้านพวกนั้นไปถึงอารามแล้วถามภิกษุทั้งหลายว่า พระคุณเจ้าอุปนนท์
ไปไหน เจ้าข้า ?
ภิกษุทั้งหลายตอบว่า ท่านพระอุปนันทศากยบุตรนั้นเข้าไปบิณฑบาต
ในบ้านแล้ว.
ชาวบ้านสั่งว่าท่านเจ้าข้า ของเคี้ยวนี้ต้องมอบให้พระคุณเจ้าอุปนนท์
ถวายภิกษุสงฆ์.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย ถ้าเช่นนั้น พวกเธอจงรับประเคนเก็บไว้จนกว่าอุปนนท์จะมา
ครั้นท่านพระอุปนันทศากยบุตร เข้าไปเยี่ยมตระกูลทั้งหลายก่อนเวลา
ฉันแล้วมาถึงต่อกลางวัน ก็คราวนั้นเป็นสมัยทุพภิกขภัย ภิกษุทั้งหลายรับสิ่ง
ของเล็กน้อยแล้วห้ามเสียบ้าง พิจารณาแล้วห้ามเสียบ้าง เป็นอันว่าภิกษุสงฆ์
ล้วนเป็นผู้ห้ามภัตรทั้งนั้น ภิกษุทั้งหลายรังเกียจไม่รับประเคน,