เมนู

ครั้งนั้น ท่านพระโสณะไปในที่สงัดหลีกเร้นอยู่ ได้มีความปริวิตก
แห่งจิตเกิดขึ้นอย่างนี้ว่า บรรดาพระสาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ที่ปรารภ
ความเพียรอยู่ เราก็เป็นรูปหนึ่ง แต่ไฉน จิตของเราจึงยังไม่หลุดพ้นจากอาสวะ
ทั้งหลาย เพราะไม่ถือมั่นเล่า สมบัติในตระกูลของเราก็ยังมีอยู่ เราอาจบริโภค
สมบัติและบำเพ็ญกุศล ถ้ากระไร เราพึงสึกเป็นคฤหัสถ์แล้ว บริโภคสมบัติและ
บำเพ็ญกุศล ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบความปริวิตกแห่งจิตของ
ท่านด้วยพระทัยแล้ว จึงทรงอันตรธานที่คิชฌกูฏบรรพต มาปรากฏพระองค์
ณ ป่าสีตวัน เปรียบเหมือนบุรุษมีกำลัง เหยียดแขนที่คู้ หรือคู้แขนที่เหยีอด
ฉะนั้น คราวนั้น พระองค์พร้อมด้วยภิกษุเป็นอันมาก เสด็จเที่ยวจาริกตาม
เสนาสนะ ได้เสด็จเข้าไปทางสถานที่เดินจงกรมของท่านพระโสณะ ได้ทอด
พระเนตรเห็นสถานที่เดินจงกรมเปื้อนโลหิต ครั้นแล้วจึงตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย
มารับสั่งถามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สถานที่เดินจงกรมแห่งนี้ของใครหนอ
เปื้อนโลหิต เหมือนสถานที่ฆ่าโค.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ท่านพระโสณะปรารภความเพียรเกินขนาด
เดินจงกรมจนเท้าทั้ง 2 แตก ถามที่เดินจงกรมแห่งนี้ของท่านจึงเปื้อนโลหิต
ดุจสถานที่ฆ่าโค ฉะนั้น พระพุทธเจ้าข้า.
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าได้เสด็จเข้าไปทางที่อยู่ของท่านพระ
โสณะ ครั้นแล้วประทับนั่งเหนือพุทธอาสน์ที่จัดไว้ถวาย แม้ท่านพระโสณะก็
ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วนั่งเฝ้าอยู่.

ตั้งความเพียรสม่ำเสมอเทียบเสียงพิณ


พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสถามท่านพระโสณะผู้นั่งเฝ้าอยู่ว่า ดูก่อน
โสณะ เธอไปในที่สงัดหลีกเร้นอยู่ ได้มีความปริวิตกแห่งจิตเกิดขึ้นอย่างนี้ว่า