เมนู

จักนั่งในโรงภัตร่วมกับเราไม่ได้ จักต้องนั่งในโรงภัตแยกจากเรา.
จักอยู่ในที่มุงที่บังอันเดียวร่วมกับเราไม่ได้ จักต้องอยู่ในที่มุงที่บังอัน
เดียวแยกจากเรา.
จักทำอภิวาท ต้อนรับอัญชลีกรรม สามีจิกรรม ตามลำดับผู้แก่พรรษา
กับเราไม่ได้ จักต้องทำอภิวาท ต้อนรับ อัญชลีกรรม สามีจิกรรม ตามลำดับ
ผู้แก่พรรษาเว้นจากเรา.
ความบาดหมาง ความทะเลาะ ความแก่งแย่ง ความวิวาท ความแตก
แยกแห่งสงฆ์ ความกำหนดแห่งสงฆ์ การกระทำต่างแห่งสงฆ์ ซึ่งมี ข้อนั้นเป็น
เหตุจักมีแก่สงฆ์ ภิกษุผู้เกรงแค่ความแตกกัน พึงยอมแสดงอาบัตินั้น เสีย แม้
ด้วยความเชื่อผู้อื่น.
ครั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสข้อความนั้นแก่ภิกษุพวกสนับสนุนผู้ถูก
ยกแล้ว ทรงลุกจากที่ประทับเสด็จกลับ.

แยกกันทำอุโบสถในสีมาเป็นต้น


[240] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุพวกที่สนับสนุนผู้ถูกยก ทำอุโบสถ
ทำสังฆกรรม ภายในสีมานั้นเอง ส่วนภิกษุพวกยกไปทำอุโบสถ ทำสังฆกรรม
นอกสีมา กาลต่อมา ภิกษุผู้ยกรูปหนึ่ง เข้าไปในพุทธสำนัก ถวายบังคมพระ
ผู้มีพระภาคเจ้านั่ง ณ ที่ควรส่วน ข้างหนึ่ง ครั้น แล้วได้กราบทูลคำนี้แต่พระผู้มี
พระภาคเจ้าว่าพระพุทธเจ้าข้า ภิกษุพวกสนับสนุนผู้ถูกยกนั่น ทำอุโบสถ ทำ
สังฆกรรม ภายในสีมานั่งเอง ส่วนพวกข้าพระพุทธเจ้า เป็นภิกษุพวกยกต้อง
ไปทำอุโบสถ ทำสังฆกรรมนอกสีมา พระพุทธเจ้าข้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งว่า ก่อนภิกษุ ถ้าภิกษุพวกที่สนับสนุนผู้
ถูกยกนั้น จักทำอุโบสถ ทำสังฆกรรม ภายในสีมานั้นเอง ถูกตามญัตติและ
อนุสาวนา ที่เราบัญญัติไว้ กรรมของพวกเธอนั่น เป็นธรรม ไม่กำเริบ ควร
แก่ฐานะ ถ้าพวกเธอเป็นภิกษุพวกยกจักทำอุโบสถ ทำสังฆกรรมภายในสีมา

นั่งเอง ถูกตามญัตติ และอนุสาวนา ที่เราบัญญัติไว้ แม้กรรมของพวกเธอ
นั้น ก็เป็นธรรม ไม่กำเริบ ควรแก่ฐานะ ข้อนั้นเป็นเพราะเหตุไร เพราะภิกษุ
พวกนั้นมีสังวาสต่างจากพวกเธอ และพวกเธอก็มีสังวาสต่างจากภิกษุพวกนั้น.

นานาสังวาสภูมิ 2 อย่าง


ดูก่อนภิกษุ ภูมิของภิกษุนานาสังวาสนี้มี 2 อย่าง คือ ภิกษุทำตน
เป็นนานาสังวาสด้วยตน 1 สงฆ์พร้อมเพรียงกันยกภิกษุนั้น เพราะไม่เห็นอาบัติ
เพราะไม่ทำคืนอาบัติ หรือเพราะไม่สละทิฏฐิบาป 1.
ดูก่อนภิกษุ ภูมิของภิกษุนานาสังวาส 2 อย่างนี้แล.

สมานสังวาสภูมิ 2 อย่าง


ดูก่อนภิกษุ ภูมิของภิกษุสมานสังวาสนี้มี 2 อย่าง คือ ภิกษุทำตน
เป็นสมานสังวาสด้วยตน 1 สงฆ์พร้อมเพรียงกันรับภิกษุนั้น ผู้ถูกยกเพราะไม่
เห็นอาบัติ เพราะไม่ทำคืนอาบัติ หรือเพราะไม่สละทิฏฐิบาป เข้าหมู่ 1.
ดูก่อนภิกษุ ภูมิของภิกษุสมานสังวาส 2 อย่างนี้แล.

เรื่องความบาดหมางกันเป็นต้น


[241] ก็โดยสมัยนั่นแล ภิกษุทั้งหลายเกิดความบาดหมางเกิดความ
ทะเลาะ ถึงการวิวาทกัน ย่อมแสดงกายกรรม วจีกรรม อันไม่สมควรต่อกัน
และกัน ทำปรามาสกันด้วยมือ ในโรงภัต ในละแวกบ้าน คนทั้งหลายเพ่ง
โทษ ติเตียน โพนทนาว่า ไฉนพระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตรทั้งหลาย จึง
ได้เกิดความหมาง เกิดความทะเลาะ ถึงการวิวาท แสดงกายกรรม วจี-
กรรม อันไม่สมควรต่อกันและกัน ทำปรามาสกันด้วยมือ ในโรงภัต ใน
ละแวกบ้านเล่า ภิกษุทั้งหลายได้ยินคนพวกนั้นเพ่งโทษ ติเตียน โพนทนาอยู่
บรรดาที่เป็นผู้มักน้อย. . . ต่างเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉน ภิกษุ
ทั้งหลาย จึงได้เกิดความบาดหมาง. . . ทำปรามาสกันด้วยมือ ในโรงภัต
ในละแวกบ้านเล่า แล้วได้กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.