เมนู

หนึ่ง วัดโน้น กึ่งหนึ่ง พึงให้ส่วนจีวรในวัดโน้นกึ่งหนึ่ง วัดโน้นกึ่งหนึ่ง หรือ
จำพรรษาในวัดใดมากกว่า พึงให้ส่วนจีวรในวัดนั้น.

เรื่องพระอาพาธโรคท้องร่วง


[166] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งอาพาธเป็นโรคท้องร่วง นอน
จมกองมูตรกองคูถของตนอยู่ ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้ามีท่านอานนท์เป็น
ปัจฉาสมณะ เสด็จพระพุทธดำเนินไปตามเสนาสนะ ได้เสด็จเข้าไปทางที่อยู่
ของภิกษุรูปนั้น ได้ทอดพระเนตรเห็นภิกษุรูปนั้น นอนจมกองมูตรกองคูถ
ของตนอยู่ครั้นแล้วเสด็จเข้าไปใกล้ภิกษุรูปนั้น แล้วตรัสถามว่า เธออาพาธ
เป็นโรคอะไรภิกษุ ?
ภิ. ข้าพระพุทธเจ้าอาพาธเป็นโรคท้องร่วง พระพุทธเจ้าข้า.
พ. เธอมีผู้พยาบาลไหมเล่า ภิกษุ ?
ภิ. ไม่มี พระพุทธเจ้าข้า.
พ. เพราะเหตุไร ภิกษุทั้งหลายจึงไม่พยาบาลเธอ ?
ภิ. เพราะข้าพระพุทธเจ้ามิได้ทำอุปการะแก่ภิกษุทั้งหลาย ฉะนั้นภิกษุ
ทั้งหลายจึงไม่พยาบาลข้าพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงรับสั่งกะท่านพระอานนท์ว่า อานนท์ เธอไปตัก
น้ำมาเราจักสรงน้ำภิกษุรูปนี้.
ท่านพระอานนท์ทูลรับสนองพระพุทธบัญชาว่า เป็นดังนั้น พระ-
พุทธเจ้าข้าดังนี้แล้ว ตักน้ำมาถวาย พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรดน้ำ ท่านพระ
อานนท์ขัดสี พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงยกศีรษะ ท่านพระอานนท์ยกเท้าแล้ว วาง
บนเตียง.

ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งให้ประชุมภิกษุสงฆ์ ในเพราะเหตุ
เป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า
ในวิหารหลังโน้น มีภิกษุอาพาธหรือ ภิกษุทั้งหลาย ?
ภิ. มี พระพุทธเจ้าข้า.
พ. ภิกษุรูปนั้นอาพาธเป็นโรคอะไร ภิกษุทั้งหลาย ?
ภิ. ท่านรูปนั้น อาพาธเป็นโรคท้องร่วง พระพุทธเจ้าข้า.
พ. ภิกษุรูปนั้น มีผู้พยาบาลไหมเล่า ภิกษุทั้งหลาย ?
ภิ. ไม่มี พระพุทธเจ้าข้า.
พ. เพราะเหตุไร ภิกษุทั้งหลายจึงไม่พยาบาลเธอ ?
ภิ. เพราะท่านรูปนั้นมิได้ทำอุปการะแก่ภิกษุทั้งหลาย ฉะนั้น ภิกษุ
ทั้งหลายจึงไม่พยาบาลท่านรูปนั้น พระพุทธเจ้าข้า.
พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอไม่มีมารดาไม่มีบิดา ผู้ใดเล่าจะพึง
พยาบาลพวกเธอ ถ้าพวกเธอจักไม่พยาบาลกันเอง ใครเล่าจักพยาบาล ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดจะพึงอุปัฏฐากเรา ผู้นั้นพึงพยาบาลภิกษุอาพาธ ถ้ามี
อุปัชฌายะๆ พึงพยาบาลจนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย ถ้ามีอาจารย์ ๆ
พึงพยาบาลจนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย ถ้ามีสัทธิวิหาริก ๆ พึงพยาบาล
จนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย ถ้ามีอันเตวาสิก ๆ พึงพยาบาลจนตลอดชีวิต
หรือจนกว่าจะหาย ถ้ามีภิกษุผู้ร่วมอุปัชฌายะ ภิกษุผู้ร่วมอุปัชฌายะพึงพยาบาล
จนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย ถ้ามีภิกษุผู้ร่วมอาจารย์ ภิกษุผู้ร่วมอาจารย์
พึงพยาบาลจนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย ถ้าไม่มีอุปัชฌายะ อาจารย์
สัทธิวิหาริก อันเตวาสิก ภิกษุผู้ร่วมอุปัชฌายะ หรือภิกษุผู้ร่วมอาจารย์ สงฆ์
ต้องพยาบาล ถ้าไม่พยาบาลต้องอาบัติทุกกฏ.

องค์ของภิกษุอาพาธที่พยาบาลได้ยาก 5 อย่าง


ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุอาพาธที่ประกอบด้วยองค์ 5 เป็นผู้พยาบาล
ได้ยาก คือ ไม่ทำความสบาย 1 ไม่รู้ประมาณในความสบาย 1 ไม่ฉันยา 1 ไม่
บอกอาการไข้ตามจริงแก่ผู้พยาบาลที่มุ่งประโยชน์ คือ ไม่บอกอาการไข้ที่กำเริบ
ว่ากำเริบ อาการไข้ที่ทุเลาว่าทุเลา อาการไข้ที่ทรงอยู่ว่าทรงอยู่ 1 มีนิสัยเป็น
คนไม่อดทนต่อทุกขเวทนาที่เกิดปรากฏในร่างกาย อันกล้าแข็ง รุนแรง ไม่
เป็นทียินดี ไม่เป็นที่พอใจ อันจะพร่าชีวิตเสีย 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุ
อาพาธที่ประกอบด้วยองค์ 5 นี้แล เป็นผู้พยาบาลได้ยาก.

องค์ขอภิกษุอาพาธที่พยาบาลได้ง่าย 5 อย่าง


ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุอาพาธที่ประกอบด้วยองค์ 5 เป็นผู้พยาบาล
ได้ง่าย คือทำความสบาย 1 รู้ประมาณในความสบาย 1 ฉันยา 1 บอกอาการ
ป่วยไข้ตามจริงแก่ผู้พยาบาลที่มุ่งประโยชน์ คือบอกอาการไข้ที่กำเริบว่ากำเริบ
อาการไข้ที่ทุเลาว่าทุเลา อาการไข้ที่ทรงอยู่ว่าทรงอยู่ 1 มีนิสัยเป็นคนอดทนต่อ
ทุกขเวทนา อันกล้าแข็ง รุนแรง ไม่เป็นที่ยินดี ไม่เป็นที่พอใจ อันจะพร่า
ชีวิตเสีย 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุอาพาธที่ประกอบด้วยองค์ 5 นี้แล เป็น
ผู้พยาบาลได้ง่าย.

องค์ของภิกษุผู้ไม่เข้าใจพยาบาล 5 อย่าง


ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้พยาบาลไข้ที่ประกอบด้วยองค์ 5 ไม่ควร
พยาบาลไข้ คือเป็นผู้ไม่สามารถเพื่อประกอบยา 1 ไม่รู้จักของแสลงและไม่
แสลง คือนำของแสลงเข้าไปให้ กันของไม่แสลงออกเสีย 1 พยาบาลไข้เห็น
แก่อามิสไม่มีจิตเมตตา 1 เป็นผู้เกลียดที่จะนำอุจจาระ ปัสสาวะ เขฬะ หรือ