เมนู

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหตุที่เก็บผ้ำอุตราสงค์ไว้ได้มี 5 อย่างนี้ คือ
เจ็บไข้ 1 สังเกตเห็นว่าฝนจะตก 1 ไปสู่ฝั่งแม่น้ำ 1 ที่อยู่คุ้มได้ด้วยดาล 1 ได้
กรานกฐิน 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหตุที่เก็บผ้าอุตราสงค์ไว้ได้มี 5 อย่างนี้แล.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหตุที่เก็บผ้าอันตรวาสกไว้ได้มี 5 อย่างนี้ คือ
เจ็บไข้ 1 สังเกตเห็นว่าฝนจะตก 1 ไปสู่ฝั่งแม่น้ำ 1 ที่อยู่คุ้มได้ด้วยดาล 1 ได้
กรานกฐิน 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหตุที่เก็บผ้าอันตรวาสกไว้ได้มี 5 อย่างนี้
แล.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหตุที่เก็บผ้าอาบน้ำฝนไว้ได้มี 5 อย่างนี้ ดือ
เจ็บไข้ 1 ไปนอกสีมา 1 ไปสู่ฝั่งแม่น้ำ 1 ที่อยู่คุ้มได้ด้วยดาล 1 ผ้าอาบน้ำฝน
ยังไม่ได้ทำหรือทำค้างไว้ 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหตุที่เก็บผ้าอาบน้ำฝนไว้ได้
มี 5 อย่างนี้แล.

ถวายจีวรเป็นขอสงฆ์


[164] ก็โดยสมัยนั้นแส ภิกษุรูปหนึ่งจะพรรษาอยู่แต่ผู้เดียว คน
ทั้งหลายในถิ่นนั้นได้ถวายจีวรด้วยเปล่งวาจาว่า ข้าพเจ้าทั้งหลายถวายแก่สงฆ์
ภิกษุรูปนั้นจึงได้มีความปริวิตกว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติไว้ว่าภิกษุ 4
รูปเป็นอย่างน้อยชื่อว่าสงฆ์ แต่เรารูปเดียว และคนเหล่านี้ได้ถวายจีวรด้วย
เปล่งวาจาว่า ข้าพเจ้าทั้งหลายถวายแก่สงฆ์ ดังนี้ ถ้าไฉนเราจะพึงนำจีวรของ
สงฆ์เหล่านี้ไปพระนครสาวัตถี กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัส
ว่า ดูก่อนภิกษุ จีวรเหล่านั้นเป็นของเธอผู้เดียว จนถึงเวลาเดาะกฐิน.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ในข้อนี้ ภิกษุจำพรรษารูปเดียว ประชาชน
ในถิ่นนั้นถวายจีวรด้วยเปล่งวาจาว่า พวกข้าพเจ้าถวายแก่สงฆ์ ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย เราอนุญาตจีวรเหล่านั้นแก่เธอรูปเดียว จนถึงเวลาเดาะกฐิน.

สมัยต่อมา ภิกษุรูปหนึ่งอยู่รูปเดียวตลอดฤดูกาล ประชาชนในถิ่นนั้น
ได้ถวายจีวรเปล่งวาจาว่า พวกข้าพเจ้าถวายแก่สงฆ์ ภิกษุรูปนั้นจึงได้ดำริดังนี้
ว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติไว้ว่า ภิกษุ 4 รูปเป็นอย่างน้อยชื่อว่าสงฆ์
แต่เราอยู่ผู้เดียว และคนเหล่านั้นได้ถวายจีวรด้วยเปล่งวาจาว่า พวกข้าพเจ้า
ถวายแก่สงฆ์ ถ้าไฉนเราจะพึงนำจีวรของสงฆ์เหล่านี้ไปพระนครสาวัตถี ครั้น
แล้วได้นำจีวรเหล่านั้นไปพระนครสาวัตถี แจ้งความนั้นแก่ภิกษุทั้งหลาย ๆ
กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสอนุญาตว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เราอนุญาตไห้สงฆ์ผู้อยู่พร้อมหน้ากันแจก.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ในข้อนี้ ภิกษุอยู่ผู้เดียวตลอดฤดูกาล ประชา -
ชนในถิ่นนั้นได้ถวายจีวรด้วยเปล่งวาจาว่าพวกข้าพเจ้าถวายแก่สงฆ์ ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย เราอนุญาตให้ภิกษุรูปนั้นอธิษฐานจีวรเหล่านั้นว่า จีวรเหล่านี้ของเรา
ถ้าเมื่อภิกษุรูปนั้นยังไม่ได้อธิษฐานจีวรนั้น มีภิกษุรูปอื่นมา พึงให้ส่วนแบ่ง
เท่า ๆ กัน ถ้าเมื่อภิกษุ 2 รูปกำลังแบ่งจีวรนั้น แต่ยังมิได้จับสลาก มีภิกษุ
รูปอื่นมา พึงให้ส่วนแบ่งเท่า ๆ กัน ถ้าเมื่อภิกษุ 3 รูปกำลังแบ่งจีวรนั้น และ
จับสลากเสร็จแล้วมีภิกษุรูปอื่นมา พวกเธอไม่ปรารถนาก็ไม่ต้องให้ส่วนแบ่ง.
สมัยต่อมา มีพระเถระ 2 พี่น้อง คือ ท่านพระอิสิทาส 1 ท่านพระ
อิสิภัตตะ 1 จำพรรษาอยู่ในพระนครสาวัตถี ได้ไปอาวาสไกลบ้านแห่งหนึ่ง-
คนทั้งหลายกล่าวกันว่า นาน ๆ พระเถระทั้งสองชะได้มา จึงได้ถวายภัตตาหาร
พร้อมทั้งจีวร.
พวกภิกษุประจำถิ่นถามพระเถระทั้งสองว่า ท่านเจ้าข้า จีวรของสงฆ์
เหล่านั้น เกิดขึ้นเพราะอาศัยพระคุณเจ้าทั้งสอง พระคุณเจ้าทั้งสองจักยินดีรับ
ส่วนแบ่งไหม.

พระเถระทั้งสองตอบอย่างนี้ว่า อาวุโสทั้งหลาย ผมรู้ทั่วถึงธรรมที่
พระผู้มีพระภาคเจ้าแสดงแล้ว โดยประการที่จีวรเหล่านั้นเป็นของพวกท่านเท่า
นั้น จนถึงเวลาเดาะกฐิน.
สมัยต่อมา ภิกษุ 3 รูป จำพรรษาอยู่ในพระนครราชคฤห์ ประ-
ชาชนในเมืองนั้นถวายจีวรด้วยเปล่งวาจาว่า พวกข้าพเจ้าถวายแก่สงฆ์ ภิกษุ
เหล่านั้นจึงได้ดำริดังนี้ว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติไว้ว่าภิกษุ รูปเป็น
อย่างน้อยชื่อว่าสงฆ์ แต่เรามี 3 รูปด้วยกัน และคนเหล่านี้ถวายจีวรด้วยเปล่ง
วาจาว่า พวกข้าพเจ้าถวายแก่สงฆ์ พวกเราจะพึงปฏิบัติอย่างไรหนอ สมัยนั้น
พระเถระหลายรูป คือ ท่านพระนีลวาสี ท่านพระสาณวาสี ท่านพระโคปกะ
ท่านพระภคุ และท่านพระผลิกสันทานะ อยู่ ณ วัดกุกกุฏาราม เขตนครปาตลี-
บุตร ภิกษุเหล่านั้นจึงเดินทางไปนครปาตลีบุตร แล้วเรียนถามพระเถระ
ทั้งหลาย ๆ กล่าวอย่างนี้ว่า พวกเรารู้ทั่วถึงธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง
แล้ว โดยประการที่จีวรเหล่านั้นเป็นของพวกท่านเท่านั้น จนถึงเวลาเดาะกฐิน.

เรื่องพระอุปนันท์


[165] ก็โดยสมัยนั้นแล ท่านพระอุปนันศากยบุตร จำพรรษาอยู่
ในพระนครสาวัตถี ได้ไปอาวาสใกล้บ้านแห่งหนึ่ง ภิกษุทั้งหลายในวัดนั้น
ปรารถนาจะแบ่งจีวร จึงประชุมกัน ภิกษุเหล่านั้น พูดอย่างนี้ว่า อาวุโส
ภิกษุทั้งหลายจักแบ่งจีวรของสงฆ์เหล่านี้แล ท่านจักยินดีส่วนแบ่งไหม ขอรับ
ท่านพระอุปนันท์ ตอบว่า อาวุโสทั้งหลาย ผมยินดี ขอรับ แล้วได้รับส่วน
จีวรแต่อาวาสนั้นไปวัดอื่น แม้ภิกษุทั้งหลายในวัดนั้นก็ปรารถนาจะแบ่งจีวร
จึงประชุมกัน และพูดอย่างนี้ว่า อาวุโส ภิกษุทั้งหลายจักแบ่งจีวรของสงฆ์