เมนู

ภิกษุนั้นตอบว่า อาวุโสทั้งหลาย ผมเก็บผ้าสังฆาฏิไว้ในวิหารอันธวัน
นี้แล้วครองอุตราสงค์กับผ้าอันตรวาสกเข้าบ้านเพื่อบิณฑบาต คนร้ายขโมย
ผ้าสังฆาฏินั้นไป เพราะเหตุนั้น ผมจึงใช้ผ้าเก่า ครองจีวรคร่ำคร่า.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้น แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสห้ามว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุมีแต่ผ้าอุตราสงค์กับผ้าอันตรวาสกไม่พึงเข้าบ้าน
รูปใดเข้าไป ต้องอาบัติทุกกฏ.
สมัยต่อมา ท่านพระอานนท์ ลืมสติครองแต่ผ้าอุคราสงฆ์กับผ้าอันตร-
วาสกเข้าบ้านเพื่อบิณฑบาต ภิกษุทั้งหลายได้กล่าวคำนี้แก่ท่านพระอานนท์ว่า
อาวุโสพระอานนท์ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติห้ามไว้แล้ว มิใช่หรือว่า
ภิกษุมีแต่ผ้าอุตราสงค์กับผ้าอันตรวาสก ไม่พึงเข้าบ้าน ดังนี้ ไฉนพระคุณเจ้า
จึงมีแต่ผ้าอุตราสงค์กับผ้าอันตรวาสกเข้าบ้านเล่า.
พระอานนท์ตอบว่าจริง ขอรับ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติห้าม
ไว้แล้วว่า ภิกษุมีแต่ผ้าอุตราสงค์กับผ้าอันตรวาสกไม่พึงเข้าบ้าน ก็แต่ว่า ผม
เข้าบ้านด้วยลืมสติ.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า

เหตุที่เก็บผ้าไตรจีวรไว้ได้


ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำธรรมีกถา ในเพราะเหตุเป็น
เค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย เหตุที่เก็บผ้าสังฆาฏิไว้ได้ มี 5 อย่างนี้ คือ เจ็บไข้ 1 สังเกตเห็น
ว่าฝนจะตก 1 ไปสู่ฝั่งแม่น้ำ 1 ที่อยู่คุ้มได้ด้วยดาล 1 ได้กรานกฐิน 1 ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลายเหตุที่เก็บผ้าสังฆาฏิไว้ได้มี 5 อย่างนี้แล.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหตุที่เก็บผ้ำอุตราสงค์ไว้ได้มี 5 อย่างนี้ คือ
เจ็บไข้ 1 สังเกตเห็นว่าฝนจะตก 1 ไปสู่ฝั่งแม่น้ำ 1 ที่อยู่คุ้มได้ด้วยดาล 1 ได้
กรานกฐิน 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหตุที่เก็บผ้าอุตราสงค์ไว้ได้มี 5 อย่างนี้แล.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหตุที่เก็บผ้าอันตรวาสกไว้ได้มี 5 อย่างนี้ คือ
เจ็บไข้ 1 สังเกตเห็นว่าฝนจะตก 1 ไปสู่ฝั่งแม่น้ำ 1 ที่อยู่คุ้มได้ด้วยดาล 1 ได้
กรานกฐิน 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหตุที่เก็บผ้าอันตรวาสกไว้ได้มี 5 อย่างนี้
แล.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหตุที่เก็บผ้าอาบน้ำฝนไว้ได้มี 5 อย่างนี้ ดือ
เจ็บไข้ 1 ไปนอกสีมา 1 ไปสู่ฝั่งแม่น้ำ 1 ที่อยู่คุ้มได้ด้วยดาล 1 ผ้าอาบน้ำฝน
ยังไม่ได้ทำหรือทำค้างไว้ 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหตุที่เก็บผ้าอาบน้ำฝนไว้ได้
มี 5 อย่างนี้แล.

ถวายจีวรเป็นขอสงฆ์


[164] ก็โดยสมัยนั้นแส ภิกษุรูปหนึ่งจะพรรษาอยู่แต่ผู้เดียว คน
ทั้งหลายในถิ่นนั้นได้ถวายจีวรด้วยเปล่งวาจาว่า ข้าพเจ้าทั้งหลายถวายแก่สงฆ์
ภิกษุรูปนั้นจึงได้มีความปริวิตกว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติไว้ว่าภิกษุ 4
รูปเป็นอย่างน้อยชื่อว่าสงฆ์ แต่เรารูปเดียว และคนเหล่านี้ได้ถวายจีวรด้วย
เปล่งวาจาว่า ข้าพเจ้าทั้งหลายถวายแก่สงฆ์ ดังนี้ ถ้าไฉนเราจะพึงนำจีวรของ
สงฆ์เหล่านี้ไปพระนครสาวัตถี กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัส
ว่า ดูก่อนภิกษุ จีวรเหล่านั้นเป็นของเธอผู้เดียว จนถึงเวลาเดาะกฐิน.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ในข้อนี้ ภิกษุจำพรรษารูปเดียว ประชาชน
ในถิ่นนั้นถวายจีวรด้วยเปล่งวาจาว่า พวกข้าพเจ้าถวายแก่สงฆ์ ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย เราอนุญาตจีวรเหล่านั้นแก่เธอรูปเดียว จนถึงเวลาเดาะกฐิน.