เมนู

ท่านพระอานนท์กราบทูลว่า ยังอีก 9 วัน หรือ 10 วัน พระพุทธเจ้าข้า.
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำธรรมีกถา ในเพราะเหตุเป็นเค้ามูล
นั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหละหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เราอนุญาตให้ทรงอดิเรกจีวรไว้ได้ 10 วันเป็นอย่างยิ่ง.

พระพุทธานุญาตให้วิกัปอดิเรกจีวร


สมัยต่อมา อดิเรกจีวรบังเกิดแก่ภิกษุทั้งหลาย ขณะนั้น ภิกษุทั้งหลาย
ได้มีความปริวิตกว่า พวกเราจะพึงปฏิบัติในอดิเรกจีวรอย่างไรหนอ แล้วกราบ
ทูลเรื่องนั้นแค่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสอนุญาตว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรา
อนุญาตให้วิกัปอดิเรกจีวร.

พระพุทธานุญาตผ้าปะเป็นต้น


[152] ครั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ในพระนครเวสาลีตาม
พระพุทธาภิมย์ แล้วเสด็จพระพุทธดำเนินไปทางพระนครพาราณสี เสด็จ
พระพุทธดำเนินผ่านระยะทางโดยลำดับ ถึงพระนครพาราณสี ทราบว่า พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ อิสิปตนะมฤคทายวันเขตพระนครพาราณสีนั้น
สมัยนั้น ผ้าอันตรวาสกของภิกษุรูปหนึ่งขาดทะลุ และท่านได้มีความปริวิตกว่า
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอนุญาตผ้า 3 ผืน คือ ผ้าสังฆาฏิสองชั้น ผ้าอุตราสงค์
ชั้นเดียว ผ้าอันตรวาสกชั้นเดียว ก็ผ้าอันตรวาสกของเรานี้ขาดทะลุ ไฉนหนอ
เราพึงดามผ้าปะ โดยรอบจักเป็นสองชั้นตรงกลางจักเป็นชั้นเดียว ดังนี้แล้ว
คามผ้าปะทันที พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จพระพุทธดำเนินไปตามเสนาสนะ ได้
ทอดพระเนตรเห็นภิกษุนั้นกำลังดามผ้าปะ ครั้นแล้วเสด็จเข้าไปใกล้ภิกษุนั้น
ได้ตรัสถามว่า เธอกำลังทำอะไร ภิกษุ.