เมนู

พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ได้ทรงพระดำริว่า กุลบุตรในธรรมวินัยนี้ ที่เป็นคน
ขี้หนาว กลัวต่อความหนาว อาจดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยผ้าสามผืน ไฉนหนอเรา
เราจะพึงกั้นเขต ตั้งกฎ ในเรื่องผ้าแก่ภิกษุทั้งหลาย เราพึงอนุญาตผ้าสามผืน.

พระพุทธนุญาตไตรจีวร


ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำธรรมีกถาในเพราะเหตุเป็นเค้ามูล
นั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้ง
หลายว่า เราเดินทางไกลในระหว่างพระนครราชคฤห์ และระหว่างพระนครเว-
สาลีต่อกัน ได้เห็นภิกษุหลายรูปในธรรมวินัยนี้ หอบผ้าพะรุงพรัง บ้างก็
ทูนห่อผ้าที่พับดังฟูกขึ้นบนศีรษะบ้างก็แบกขึ้นบ่า บ้างก็กระเดียดไว้ที่สะเอว
เดินมาอยู่ ครั้นแล้วเราได้ดำริว่าโมฆบุรุษเหล่านี้ เวียนมาเพื่อความมักมาก
ในจีวรเร็วนัก ไฉนหนอเราจะพึงกั้นเขต ตั้งกฎ ในเรื่องผ้าแก่ภิกษุทั้งหลาย.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราครองผ้าผืนเดียว นั่งอยู่กลางแจ้ง ณ ตำบล
นี้ตอนกลางคืน ขณะน้ำค้างตก ในราตรีเหมันตฤดู กำลังหนาว ตั้งอยู่
ระหว่างเดือน 3 กับระหว่างเดือน 4 ต่อกัน ความหนาวมิได้มีแก่เรา เมื่อ
ปฐมยามผ่านไปแล้วความหนาวจึงได้มีแก่เรา เราจึงห่มจีวรผืนที่สอง ความ
หนาวมิได้มีแก่เรา เมื่อมัชฌิมยามผ่านไปแล้ว ความหนาวได้มีแก่เรา เราจึง
ห่มจีวรผืนที่สาม ความหนาวมิได้มีแก่เรา เมื่อปัจฉิมยามผ่านไปแล้ว ขณะ
รุ่งอรุณแห่งราตรีอันเป็นเบื้องต้น แห่ความสดชื่น ความหนาวจึงได้มีแก่เรา
เราจึงห่มจีวรผืนที่สี่ ความหนาวมิได้มีแก่เรา.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรานั้นได้ดำริว่า กุลบุตรในธรรมวินัยนี้ ที่เป็น
คนขี้หนาว กลัวต่อความหนาว ก็อาจดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยผ้าสามผืน ไฉนหนอ
เราจะพึงกั้นเขต ตั้งกฎ ในเรื่องผ้าแก่ภิกษุทั้งหลาย เราจะพึงอนุญาตไตรจีวร.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตไตรจีวร คือ ผ้าสังฆาฏิ 2 ชั้น
ผ้าอุตราสงค์ชั้นเดียว ผ้าอันตรวาสกชั้นเดียว.

พระพุทธบัญญัติอดิเรกจีวร


[151] ก็โดยสมัยนั้นแล พระฉัพพัคคีย์ทราบว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงอนุญาตไตรจีวร จึงใช้จีวรสำรับหนึ่งสำหรับเข้าบ้าน สำรับหนึ่งสำหรับ
อยู่ในอาราม สำรับหนึ่งสำหรับลงสรงน้ำ บรรดาภิกษุที่เป็นผู้มักน้อย. . .
ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนพระฉัพพัคคีย์จึงได้ทรงอดิเรกจีวรเล่า
แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำธรรมีกถาในเพราะเหตุเป็นเค้ามูล
นั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย ภิกษุไม่พึ่งทรงอดิเรกจีวร รูปใดทรง พึงปรับอาบัติตามธรรม.
สมัยต่อมา อดิเรกจีวรบังเกิดขึ้นแก่ท่านเพระอานนท์ และท่านประสงค์
จะถวายจีวรนั้นแค่ท่านพระสารีบุตร แต่ท่านพระสารีบุตรอยู่ถึงเมืองสาเกต
ท่านพระอานนท์จึงได้มีความปริวิตกว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติไว้ว่า
ภิกษุไม่พึงทรงอดิเรกจีวร ก็อดิเรกจีวรนี้บังเกิดแก่เรา และเราก็ใคร่จะถวาย
จีวรผืนนี้แก่ท่านพระสารีบุตร แต่ท่านอยู่ถึงเมืองสาเกต เราพึงปฏิบัติอย่างไร
หนอ แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.
พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า อานนท์ยังอีกนานเท่าไร สารีบุตรจึง
จะกลับมา.