เมนู

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตผ้าสังฆาฏิตัด ผ้าอุตราสงค์ตัด ผ้า
อันตรวาสกตัด.

เสด็จพระพุทธดำเนินทางไกล


[150] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระนครราชคฤห์
ตามพระพุทธาภิรมย์ แล้วเสด็จพระพุทธดำเนินไปทางพระนครเวสาลี พระองค์
เสด็จพระพุทธดำเนินทางไกลระหว่างพระนครราชคฤห์ และระหว่างพระนคร
เวสาลีต่อกัน ได้ทอดพระเนตรเห็นภิกษุหลายรูป หอบผ้าพะรุงพะรัง บ้างก็
ทูนห่อผ้า ที่พับดังฟูกขึ้นบนศีรษะ บ้างก็แบกขึ้นบ่า บ้างก็กะเดียดไว้ที่สะเอว
เดินมาอยู่ ครั้นแล้ว ได้ทรงดำริว่า โมฆบุรุษเหล่านี้ เวียนเมาเพื่อความมักมาก
ในจีวรเร็วนัก เราจะพึงกั้นเขต ตั้งกฎในเรื่องผ้าแก่ภิกษุทั้งหลาย ครั้น พระผู้มี
พระภาคเจ้าเสด็จพระพุทธดำเนินผ่านระยะทางโดยลำดับ ถึงพระนครเวสาลี
ทราบว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ โคตมกเจดีย์ เขตพระนครเวสาลีนั้น
ก็โดยสมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงผ้าจีวรผืนเดียว ประทับนั่ง
อยู่กลางแจ้งตอนกลางคืน ขณะน้ำค้างตก ในราตรีเหมันตฤดู กำลังหนาว
ตั้งอยู่ระหว่างเดือน 3 กับเดือน 4 ต่อกัน ความหนาวไม่ได้มีแก่พระผู้มี
พระภาคเจ้า เมื่อปฐมยามผ่านไปแล้ว ความหนาวจึงได้มีแก่พระผู้มี
พระภาคเจ้า ๆ จึงห่มจีวรผืนที่สอง ความหนาวไม่ได้มีแก่พระผู้มีพระภาคเจ้า
เมื่อมัชฌิมยามผ่านไปแล้ว ความหนาวจึงได้มีแก่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ จึงทรง
ห่มจีวรผืนที่สาม ความหนาวไม่ได้มีแก่พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อปัจฉิมยามผ่าน
ไปแล้ว ขณะรุ่งอรุณแห่งราตรีอันเป็นเบื้องต้นแห่งความสดชื่น ความหนาว
ได้มีแก่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ จึงทรงห่มจีวรผืนที่สี่ ความหนาวไม่ได้มีแก่

พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ได้ทรงพระดำริว่า กุลบุตรในธรรมวินัยนี้ ที่เป็นคน
ขี้หนาว กลัวต่อความหนาว อาจดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยผ้าสามผืน ไฉนหนอเรา
เราจะพึงกั้นเขต ตั้งกฎ ในเรื่องผ้าแก่ภิกษุทั้งหลาย เราพึงอนุญาตผ้าสามผืน.

พระพุทธนุญาตไตรจีวร


ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำธรรมีกถาในเพราะเหตุเป็นเค้ามูล
นั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้ง
หลายว่า เราเดินทางไกลในระหว่างพระนครราชคฤห์ และระหว่างพระนครเว-
สาลีต่อกัน ได้เห็นภิกษุหลายรูปในธรรมวินัยนี้ หอบผ้าพะรุงพรัง บ้างก็
ทูนห่อผ้าที่พับดังฟูกขึ้นบนศีรษะบ้างก็แบกขึ้นบ่า บ้างก็กระเดียดไว้ที่สะเอว
เดินมาอยู่ ครั้นแล้วเราได้ดำริว่าโมฆบุรุษเหล่านี้ เวียนมาเพื่อความมักมาก
ในจีวรเร็วนัก ไฉนหนอเราจะพึงกั้นเขต ตั้งกฎ ในเรื่องผ้าแก่ภิกษุทั้งหลาย.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราครองผ้าผืนเดียว นั่งอยู่กลางแจ้ง ณ ตำบล
นี้ตอนกลางคืน ขณะน้ำค้างตก ในราตรีเหมันตฤดู กำลังหนาว ตั้งอยู่
ระหว่างเดือน 3 กับระหว่างเดือน 4 ต่อกัน ความหนาวมิได้มีแก่เรา เมื่อ
ปฐมยามผ่านไปแล้วความหนาวจึงได้มีแก่เรา เราจึงห่มจีวรผืนที่สอง ความ
หนาวมิได้มีแก่เรา เมื่อมัชฌิมยามผ่านไปแล้ว ความหนาวได้มีแก่เรา เราจึง
ห่มจีวรผืนที่สาม ความหนาวมิได้มีแก่เรา เมื่อปัจฉิมยามผ่านไปแล้ว ขณะ
รุ่งอรุณแห่งราตรีอันเป็นเบื้องต้น แห่ความสดชื่น ความหนาวจึงได้มีแก่เรา
เราจึงห่มจีวรผืนที่สี่ ความหนาวมิได้มีแก่เรา.