เมนู

พระราชทานผ้าสิไวยกะ


ก็โดยสมัยนั่นแล ผ้าสิไวยกะคู่หนึ่งบังเกิดแก่พระเจ้าจัณฑปัชโชต เป็น
ผ้าเนื้อดีเลิศ ประเสริฐ มีชื่อเด่น อุดม และเป็นเยี่ยมกว่าผ้าทั้งหลายเป็นอัน
มากตั้งหลายคู่ ทั้งหลายร้อยคู่ หลายพันคู่ หลายแสนคู่
ครั้งนั้น พระเจ้าจัณฑปัชโชต ทรงส่งผ้าสิไวยกะคู่นั้น ไปพระราชทาน
แก่ชีวกโกมารภัจจ์ ชีวกโกมารภัจจ์จึงได้มีความดำริว่าผ้าสิไวยกะนี้ พระเจ้า
จัณฑปัชโชตส่งมาพระราชทาน เป็นผ้าเนื้อดีเลิศ ประเสริฐ มีชื่อเด่น อุดม
และเป็นเยี่ยมกว่าผ้าทั้งหลายเป็นอันมาก ดังหลายคู่ ตั้งหลายร้อยคู่ หลายพันคู่
หลายแสนคู่ นอกจากพระผู้มีพระภาคเจ้าอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
หรือพระเจ้าพิมพิสารจอมเสนามาคธราชแล้ว ใครอื่นไม่ควรอย่างยิ่งเพื่อใช้ผ้า
สิไวยกะคู่นี้.

พระผู้มีพระภาคเจ้าเสวยพระโสถถ่าย


[ 35] ก็โดยสมัยนั้นแล พระกายของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมักหมม
ด้วยสิ่งอันเป็นโทษ พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงรับสั่งกะท่านพระอานนท์ว่า ดูก่อน
อานนท์ กายของตถาคตหมักหมมด้วยสิ่งอันเป็นโทษ ตถาคตต้องการจะฉัน
ยาถ่าย.
ครั้งนั้น ท่านพระอานนท์เดินไปหาชีวกโกมารภัจจ์ ครั้น ถึงแล้วได้
กล่าวคำนี้กะชีวกโกมารภัจจ์ว่า ท่านชีวก พระกายของพระตถาคตหมักหมม
ด้วยสิ่งอันเป็นโทษ พระตถาคตต้องการจะเสวยพระโอสถถ่าย ชีวกโกมารภัจจ์
กล่าวว่าพระคุณเจ้า ถ้าอย่างนั้น ขอท่านจงโปรดทำพระกายของพระผู้มีพระ
ภาคเจ้าให้ชุ่มชื่นสัก 2 - 3 วัน.

ครั้งนั้น ท่านพระอานนท์ได้ทำพระกายของพระผู้มีพระภาคเจ้าให้
ชุ่มชื่น 2 - 3 วันแล้ว เดินไปหาชีวกโกมารภัจจ์ ครั้นถึงแล้วได้กล่าวคำนี้กะ
ชีวกโกมารภัจจ์ว่า.
ท่านชีวก พระกายของพระตถาคตชุ่มชื่นแล้ว บัดนี้ ท่านรู้กาลอัน
ควรเถิด.
ครั้งนั้น ชีวกโกมารภัจจ์ได้มีความปริวิตกดังนี้ว่า การที่เราจะพึงทูล
ถวายพระโอสถถ่ายที่หยาบแด่พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ไม่สมควรเลย ถ้ากระไร
เราพึงอบก้านอุบล 3 ก้านด้วยยาต่าง ๆ แล้วทูลถวายพระตถาคต ครั้นแล้วได้
อบก้านอุบล 3 ก้านด้วยยาต่าง ๆ แล้วเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นแล้วได้
ทูลถวายก้านอุบลก้านที่หนึ่งแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า กราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า
ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าจงทรงสูดก้านอุบลก้านที่ 1 นี้ การทรงสูดก้านอุบลนี้จัก
ยังพระผู้มีพระภาคเจ้าให้ถ่ายถึง 10 ครั้ง แล้วได้ทูลถวายก้านอุบลก้านที่ 2 แด่
พระผู้มีพระภาคเจ้า กราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าจงทรง
สูดก้านอุบลก้านที่ 2 นี้ การทรงสูดก้านอุบลนี้จักยังพระผู้มีพระภาคเจ้าให้
ถ่ายถึง 10 ครั้ง แล้วได้ทูลถวายก้านอุบลก้านที่ 3 แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
กราบทูลว่าพระพุทธเจ้าข้า ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าจนทรงสูดก้านอุบลก้านที่ 3
นี้ การทรงสูดก้านอุบลนี้จักยังพระผู้มีพระภาคเจ้าให้ถ่ายถึง 10 ครั้ง ด้วย
วิธีนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าจักทรงถ่ายถึง 30 ครั้ง.
ครั้นชีวกโกมารภัจจ์ ทูลถวายพระโอสถถ่ายแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
เพื่อถ่ายครบ 30 ครั้งแล้ว ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า ทำประทักษิณ
กลับไป ขณะเมื่อชีวกโกมารภัจจ์เดินออกไปนอกซุ่มประตู แล้วได้มีความปริวิตก
ดังนี้ว่า เราทูลถวายพระโอสถถ่ายแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าเพื่อถ่ายครบ 30 ครั้ง

พระกายของพระตถาคตหมักหมมด้วยสิ่งอันเป็นโทษ จักไม่ยังพระผู้มีพระภาค
เจ้าให้ถ่ายครบ 30 ครั้ง จักให้ถ่ายเพียง 29 ครั้ง แต่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรง
ถ่ายแล้วจักสรงพระกาย ครั้นสรงพระกายแล้ว จักถ่ายอีกดรั้งหนึ่ง อย่างนี้
พระผู้มีพระภาคเจ้าจักทรงถ่ายครบ 30 ครั้ง.
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบความปริวิตกแห่งจิตของชีวก
โกมารภัจจ์ด้วยพระทัยแล้ว รับสั่งกะท่านพระอานนท์ว่า อานนท์ ชีวกโกมาร-
ภัจจ์ กำลังเดินออกไปนอกซุ้มประตูวิหารนี้ ได้มีความปริวิตกดังนี้ว่า เรา
ถวายพระโอสถถ่ายแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าเพื่อถ่ายครบ 30 ครั้งแล้ว พระกาย
ของพระตถาคตหมักหมมด้วยสิ่งอันเป็นโทษ จักไม่ยังพระผู้มีพระภาคเจ้าให้
ถ่ายครบ 30 ครั้ง จักให้ถ่ายเพียง 29 ครั้ง แต่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงถ่าย
แล้วจักทรงสรงพระกาย ครั้นสรงพระกายแล้วจักถ่ายอีกดรั้งหนึ่ง อย่างนี้ พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าจักทรงถ่ายครบ 30 ครั้ง อานนท์ ถ้าอย่างนั้น เธอจงจัดเตรียม
น้ำร้อนไว้.
พระอานนท์ทูลรับสนองพระพุทธพจน์แล้ว จัดเตรียมน้ำร้อนไว้ถวาย
ต่อมา ชีวกโกมารภัจจ์ไปในพุทธสำนัก ครั้นถึงแล้วถวายบังคมพระผู้มีพระ
ภาคเจ้านั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูลถามพระผู้มีพระภาค
เจ้าว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงถ่ายแล้วหรือ พระพุทธเจ้าข้า.
ภ. เราถ่ายแล้ว ชีวก.
ชี. พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระพุทธเจ้ากำลังเดินออกไปนอกซุ้มประตู
พระวิหารนี้ ได้มีความปริวิตกดังนี้ว่า เราถวายพระโอสถถ่ายแด่พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าเพื่อถ่ายครบ 30 ครั้งแล้ว พระกายของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมักหมม
ด้วยสิ่งอันเป็นโทษ จักไม่ยังพระผู้มีพระภาคเจ้าให้ถ่ายครบ 30 ครั้ง จักให้ถ่าย

เพียง 29 ครั้ง แต่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงถ่ายแล้วจักสรงพระกาย ครั้นสรง
พระกายแล้วจักถ่ายอีกดรั้งหนึ่งอย่างนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าจักทรงถ่ายครบ 30
ครั้ง พระพุทธเจ้าข้า ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าจงโปรดสรงพระกาย ขอพระ-
สุดจงโปรดสรงพระกาย.
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสรงน้ำอุ่น ครั้นสรงแล้ว ทรงถ่าย
อีกดรั้งหนึ่งอย่างนี้ เป็นอันพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงถ่ายครบ 30 ครั้ง ลำดับ
นั้น ชีวกโกมารภัจจ์ได้กราบทูลคำนี้แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า พระพุทธเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ควรเสวยพระกระยาหารที่ปรุงด้วยน้ำต้มผักต่าง ๆ จนกว่า
จะมีพระกายเป็นปกติ.
ต่อมาไม่นานนัก พระกายของพระผู้มีพระภาคเจ้าได้เป็นปกติแล้ว.

กราบทูลขอพร


ครั้งนั้น ชีวกโกมารภัจจ์ ถือผ้าสิไวยกะคู่นั้นไปในพุทธสำนัก ครั้น
ถึงแล้ว ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า นั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ชีวก-
โกมารภัจจ์นั่งเรียบร้อยแล้ว ได้กราบทูลคำนี้แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าพระ-
พุทธเจ้าจะขอประทานพรต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าสักอย่างหนึ่ง พระพุทธเจ้าข้า
ภ. พระตถาคตทั้งหลายเลิกให้พรเสียแล้ว ชีวก.
ชี. ข้าพระพุทธเจ้าขอประทานพรที่สมควรและไม่มีโทษ พระพุทธ
เจ้าข้า.
ภ. จงว่ามาเถิด ชีวก.
ชี. พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคเจ้าและพระสงฆ์ทรงถือผ้าบังสุกุล
เป็นปกติอยู่ ผ้าสิไวยกะของข้าพระเจ้าคู่นี้ พระเจ้าจัณฑปัชโชตทรงส่งมาพระ
ราชทาน เป็นผ้าเนื้อดีเลิศ ประเสริฐ มีชื่อเสียงเด่นอุดม และเป็นเยี่ยมกว่าผ้าทั้ง