เมนู

กราน คณะได้กราน บุคคลได้กราน ก็เมื่อกฐินกรานแล้วอย่างนั้น ถ้าแล
พวกทายกถวายอานิสงส์ที่นำมาพร้อมกับกฐินจีวรว่า ภิกษุรูปใดได้รับผ้ากฐิน
ของพวกข้าพเจ้า พวกข้าพเจ้าถวายแก่ภิกษุรูปนั้น ดังนี้ ภิกษุสงฆ์ไม่เป็นใหญ่.
ถ้าเขาไม่ทันได้สั่งเสียไว้ ถวายแล้วก็ไป ภิกษุสงฆ์เป็นใหญ่; เพราะเหตุนั้น
ถ้าแม้จีวรที่เหลือทั้งหลาย ของภิกษุผู้กรานเป็นของชำรุด สงฆ์พึงอปโลกน์ให้
ผ้าเพื่อประโยชน์แก่จีวร แม้เหล่านั้น. ส่วนกรรมวาจาคงใช้ได้ครั้งเดียวเท่า
นั้น. ผ้าอานิสงส์กฐินที่ยังเหลือ พึงแจกกันโดยลำดับแห่งผ้าจำนำพรรษา.
เพราะไม่มีลำดับ พึงแจกตั้งแต่เถรอาสน์ลงมา. คุรุภัณฑ์ไม่ควรแจก. แต่ถ้า
ในสีมาเดียวมีหลายวิหาร ต้องให้ภิกษุทั้งปวงประชุมกรานกฐินในที่เดียวกัน;
จะกรานกันเป็นแผนก ๆ ไม่ควร.

อนัตถตาการและอัตถตาการ


ก็บัดนี้ เพื่อจะแสดงวิธีที่กฐินจะเป็นอันกราน และไม่เป็นอันกราน
โดยพิสดาร พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย ก็แลกฐินเป็นอัน
กรานแล้วด้วยอย่างนี้ ไม่เป็นอันกรานแล้วด้วยอย่างนี้ เมื่อจะทรงแสดง
อกรณียกิจ มหาภูมิกะ และอนัตถตลักขณะก่อน จึงทรงแสดงอาการ 24
มีคำว่า อุลฺลิขิตตมฺตเตน เป็นต้น , ต่อจากนั้นไป เมื่อจะทรงแสดงอัตถต-
ลักขณะ จึงทรงแสดงอาการ 17 มีคำว่า อหเตน อตฺถตํ เป็นอาทิ. จริง
อยู่ แม้ในคัมภีร์บริวาร ท่านก็ได้กล่าวลักษณะอย่างนี้เหมือนกันว่า กฐินไม่
เป็นอันกรานด้วยอาการ 24 กฐินเป็นอันกรานด้วยอาการ 17.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อุลฺลิขิตมติเตน ได้แก่ ด้วยสักว่ากะ
ประมาณด้านยาวและค้านกว้าง. จริงอยู่ เมื่อจะกะประมาณ ย่อมใช้เล็บเป็น
ต้นกรีด แสดงที่กำหนดตัดอันนั้น หรือที่หน้าผากเป็นต้น เพื่อจำประเทศนั้นๆ