เมนู

ภิกษุอาพาธเป็นหน่อที่เท้า


[9] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งอาพาธเป็นหน่อที่เท้า ภิกษุ
ทั้งหลายพยุงภิกษุรูปนั้นให้ถ่ายอุจจาระบ้าง ให้ถ่ายปัสสาวะบ้าง พระผู้มีพระภาค
เจ้าเสด็จเที่ยวจาริกตานเสนาสนะ ได้ทอดพระเนตรเห็นพวกภิกษุกำลังพยุงภิกษุ
รูปนั้นให้ถ่ายอุจจาระบ้าง ให้ถ่ายปัสสาวะบ้าง จึงเสด็จเข้าไปใกล้ภิกษุพวกนั้น
แล้วได้ตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุรูปนี้อาพาธเป็นอะไร ภิกษุ
ทั้งหลายกราบทูลว่า ท่านรูปนี้อาพาธเป็นหน่อที่เท้า พวกข้าพระพุทธเจ้าต้อง
พยุงท่านรูปนี้ให้ถ่ายอุจจาระบ้าง ให้ถ่ายปัสสาวะบ้าง พระพุทธเจ้าข้า.

พระพุทธานุญาตให้สวมรองเท้าเป็นพิเศษ


[ 10] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำธรรมีกถา ในเพราะเหตุ
เค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ภิกษุผู้มีเท้าชอกช้ำ หรือมีเท้าแตก หรืออาพาธ
มีหน่อที่เท้า สวมรองเท้าได้.
สมัยต่อมา ภิกษุทั้งหลายมีเท้ามิได้ล้าง ขึ้นเตียงบ้างขึ้นตั่งบ้าง ทั้งจีวร
ทั้งเสนาสนะ ย่อมเสียหาย พวกภิกษุจึงกราบทูลเรื่องนั้น แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ
ตรัสอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้สวมรอง
เท้าในขณะที่คิดว่าประเดี่ยวจักขึ้นเตียง หรือขึ้นตั่ง.
สมัยต่อมา เวลากลางคืน ภิกษุทั้งหลายเดินไปสู่โรงอุโบสถก็ดี สู่ที่
ประชุมก็ดี ย่อมเหยียบตอบบ้าง หนามบ้าง ในที่มืด เท้าทั้งสองได้รับบาดเจ็บ
ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้ง
หลาย ภายในอาราม เราอนุญาตให้สวมรองเท้า และใช้คบเพลิง ประทีป
ไม้เท้าได้.

พระพุทธบัญญัติห้ามสวมเขียงเท้าไม้


ครั้นต่อมา ถึงเวลาปัจจุสมัยแห่งราตรี พระฉัพพัคคีย์ลุกขึ้นสวม
เขียงเท้าที่ทำด้วยไม้ แล้วเดินอยู่กลางแจ้ง มีเสียงขฏะขฏะ ดังอึกทึก กล่าว
ดิรัจฉานกถามีเรื่องต่าง ๆ คือ พูดเรื่องพระราชา เรื่องโจร เรื่องมหาอำมาตย์
เรื่องขุนพล เรื่องภัย เรื่องรบ เรื่องข้าว เรื่องน้ำ เรื่องผ้า เรื่องที่นอน
เรื่องดอกไม้ เรื่องของหอม เรื่องญาติ เรื่องยาน เรื่องบ้าน เรื่องนิคม
เรื่องนคร เรื่องชนบท เรื่องสตรี เรื่องบุรุษ เรื่องคนกล้าหาญ เรื่องตรอก
เรื่องท่าน้ำ เรื่องคนที่ล่วงลับไปแล้ว เรื่องเปิดเตล็ด เรื่องโลก เรื่องทะเล
เรื่องความเจริญและความเสื่อมด้วยประการนั้น ๆ เหยียบแมลงตายเสียบ้าง ยัง
ภิกษุทั้งหลายให้เคลื่อนจากสมาธิบ้าง บรรดาภิกษุที่เป็นผู้มักน้อย. . ต่างก็เพ่ง
โทษติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนพระฉัพพัคคีย์ เมื่อเวลาปัจจุสมัยแห่งราตรี
ได้ลุกขึ้นสวมเขียงเท้าที่ทำด้วยไม้แล้วเดินอยู่กลางแจ้ง มีเสียงขฏะขฎะ ดังอึกทึก
กล่าวดิรัจฉานกถา มีเรื่องต่าง ๆ คือพูดเรื่องพระราชา เรื่องโจร. . . เรื่องความ
เจริญและความเสื่อมด้วยประการนั้น ๆ เหยียบแมลงตายเสียบ้าง ยังภิกษุทั้งหลาย
ให้เคลื่อนจากสมาธิ แล้วจึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข่าวว่าภิกษุฉัพพัคคีย์ เมื่อปัจจุสมัยแห่งราตรี ได้ลุกขึ้นสวมเขียงเท้าที่ทำด้วย
ไม้ แล้ว เดินอยู่กลางแจ้ง มีเสียงขฏะขฏะ ดังอึกทึก กล่าวดิรัจฉานกถามีเรื่อง