เมนู

อาการที่ทรงรับอาราธนาแล้ว ลุกจากที่นั่งกลับไป ครั้นตกแต่งของเคี้ยวของ
ฉันอันประณีตแล้ว ให้เจ้าหน้าที่ไปกราบทูลภัตกาลแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
ถึงเวลาแล้ว ท่านพระโคดม ภัตตาหารเสร็จแล้ว.
ครั้งนั้นเป็นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงครองอันตรวาสก ทรง
ถือบาตรจีวรเสด็จพระพุทธดำเนินไปทางสถานที่อังคาส ของสองมหาอำมาตย์
แห่งมคธรัฐครั้นถึงแล้วประทับนั่งเหนือพระพุทธอาสน์ที่เขาจัดถวาย พร้อม
ด้วยภิกษุสงฆ์ ครั้งสองมหาอำมาตย์อังคาสภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข
ด้วยขาทนียโภชนียาหารอันประณีต ด้วยมือของตน จนยังพระผู้มีพระภาคเจ้า
ผู้เสวยเสร็จแล้วทรงนำพระหัตถ์ออกจากบาตร ให้ห้ามภัตรแล้ว ได้นั่งอยู่ ณ
ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง พระผู้มีjพระภาคเจ้าทรงอนุโมทนาแก่สองหาอำมาตย์นั้น
ด้วยพระคาถาเหล่านั้น ว่าดังนี้:-

คาถาอนุโมทนา


[73] บัณฑิตชาติอยู่ในประเทศใด
เลี้ยงดูท่านผู้มีศีล ผู้สำรวม ประพฤติพรหม-
จรรย์ในประเทศนั้น และได้อุทิศทักษิณาแก่
เหล่าเทพดาผู้สถิตในสถานที่นั้นเทพดาเหล่า
นั้นอันบัณฑิตชาติบูชาแล้ว ย่อมบูชาตอบ
อันบัณฑิตชาตินับถือแล้วย่อมนับถือตอบ
ซึ่งบัณฑิตชาตินั้น แต่นั้น ย่อมอนุเคราะห์
บัณฑิตชาตินั้น ดุจมารดาอนุเคราะห์บุตรผู้
เกิดแต่อก ฉะนั้น คนที่เทพดาอนุเคราะห์
แล้ว ย่อมพบเห็นแต่สิ่งที่เจริญทุกเมื่อ.


[74] ครั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอนุโมทนาแก่สองมหาอำมาตย์
ด้วยพระคาถาเหล่านี้แล้ว ทรงลุกจากพระพุทธอาสน์เสด็จกลับ สองมหา-
อำมาตย์จึงตามส่งเสด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ไปทางเบื้องพระปฤษฎางค์ด้วยความ
ประสงค์ว่า วันนี้ พระสมณโคดมจักเสด็จออกทางประตูด้านใด ประตูด้าน
นั้นจักมีนามว่า ประตูพระโคดม จักเสด็จข้ามแม่น้ำคงคาโดยท่าใด ท่านั้น
จักมีนามว่า ท่าพระโคดม ต่อมาประตูที่พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จพระพุทธ
ดำเนินผ่านไปนั้น ได้ปรากฏนามว่า ประตูพระโคดม
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จพระพุทธดำเนินไปทางแม่น้ำคงคา
ก็เวลานั้น แม้น้ำคงคากำลังเปี่ยม น้ำเสมอตลิ่ง พอกาดื่มกินได้ คนทั้งหลาย
ใคร่จะไปจากฝั่งนี้สู่ฝั่งโน้น ต่างก็หาเรือ ต่างก็หาแพ ต่างก็ผูกแพลูกบวบ
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทอดพระเนตรเห็นคนเหล่านั้นต่างก็พากันหาเรือ หาแพ
ผูกแพลูกบวบ ประสงค์จะข้ามจากฝั่งนี้ไปสู่ฝั่งโน้น จึงได้ทรงอันตรธาน ณ
ฝั่งนี้แห่งแม่น้ำคงคา ไปปรากฏ ณ ฝั่งโน้นพร้อมกับภิกษุสงฆ์ ดุจบุรุษมีกำลัง
เหยียดแขนที่คู้ หรือคู้แขนที่เหยียด ฉะนั้น.
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบความข้อนี้แล้ว จึงทรงเปล่ง
พระอุทานนี้ในเวลานั้น ว่าดังนี้:-
ชนเหล่าใดจะข้ามแม่น้ำที่ห้วงลึก
ชนเทล่านั้นต้องสร้างสะพานแล้วสละสระ
น้อยเสีย จึงข้ามสถานอันลุ่มเต็มด้วยน้ำได้
ส่วนคนที่จะข้ามแม่น้ำน้อยนี้ ก็ผูกแพข้าม
ไปได้ แต่พวกคนมีปัญญา เว้นแพเสียก็ข้าม
ได้.

ทรงแสดงจตุราริยสัจ


[75] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จพระพุทธดำเนินเข้าไปทาง
ตำบลบ้านโกฏิ ทราบว่าพระองค์ประทับอยู่ที่ตำบลบ้านโกฏินั้น.
ณ ที่นั้นแลพระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งกะพระภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย เราและพวกเธอเร่ร่อนท่องเที่ยวไป ตลอดกาลนานอย่างนี้ เพราะไม่
ได้ตรัสรู้ ไม่ได้แทงตลอดอริยสัจ 4 อริยสัจ 4 อะไรบ้าง ? ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เราและพวกเธอเร่ร่อนท่องเที่ยวไปตลอดกาลนานอย่างนี้ เพราะไม่ได้ตรัสรู้
ไม่ได้แทงตลอดทุกขอริยสัจ. . . ทุกขสมุทยอริยสัจ. . . ทุกขนิโรธอริยสัจ. . . ทุกข-
นิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทุกขอริยสัจ ทุกขมุทย-
อริยสัจ ทุกขนิโรธอริยสัจ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจนี้นั้น อันเราและ
พวกเธอได้ตรัสรู้แล้ว ได้แทงตลอดแล้ว ตัดตัณหาในภพได้ขาดแล้ว ตัณหา
ที่จะนำไปเกิดก็สิ้นแล้ว บัดนี้ ไม่มีการเกิดอีกต่อไป.

นิคมคาถา


[76] เพราะไม่เห็นอริยสัจ 4 ตาม
เป็นจริง จึงต้องท่องเที่ยวไปในชาตินั้น ๆ
ตลอดเวลานาน อริยสัจเหล่านั้นนั่น เราและ
พวกเธอได้เห็นแล้ว ตัณหาที่จะนำไปเกิด
เราและพวกเธอได้ถอนขึ้นแล้ว รากแห่ง
ทุกข์ เราและพวกเธอได้ตัดขาดแล้ว บัดนี้
ไม่มีการเกิดอีก.